โรคแทรกซ้อนเรื้อรังที่พบได้บ่อยในผู้เป็นเบาหวาน
โรคตา : จอประสาทตาเสื่อม ต้อกระจกจากเบาหวาน และตาบอด
จอรับภาพของตาผิดปกติจากการที่จอประสาทในลูกตามีการเสื่อมทำให้เกิดตามัว ตาเห็นเป็นจุดดำ อาจมีหลอดเลือดในตาแตก ถ้าไม่รักษาอาจทำให้ตาบอดได้ โดยโรคเบาหวานเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของโรคตาบอดจากจอประสาทตา ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรตรวจดวงตาเป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนทางตาจากเบาหวาน
โรคไต : ไตเสื่อม ไตวายจากเบาหวาน
เมื่อผนังหลอดเลือดที่ไตถูกทำลายโดยน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่เป็นเวลานาน ส่งผลให้ทำงานของไตเสื่อมไปทีละนิด ถ้าไม่ควบคุมเบาหวานให้ดีอาจกลายเป็นไตวายเรื้อรังได้ ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดหวาน มัน เค็ม เลิกสูบบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคไต
โรคหลอดเลือดหัวใจ
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานในระยะเวลานานๆ มักมีโอกาสเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากโรคเบาหวานจะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งมีการตีบหรืออุดตัน ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้แก่ ควบคุมเบาหวานไม่ดี ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง ไม่ออกกำลังกาย อ้วน สูบบุหรี่ เครียดเป็นประจำ และมีประวัติในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ การหลีกเลี่ยงปัจจัยดังกล่าวและตรวจร่างกายเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจได้
โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน
เกิดจากหลอดเลือดที่มาเลี้ยงบริเวณสมองตีบ ตัน ทำให้อวัยวะที่สมองส่วนนั้นควบคุมอยู่อ่อนแรงลงไป เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) ให้น้อยกว่า 6.5% ลดอาหารเค็มลง รับประทานผักผลไม้เพิ่มขึ้น ออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ และลดความเครียด เพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
เส้นประสาทเสื่อม
เกิดจากเส้นเลือดฝอยที่มาเลี้ยงเส้นประสาทถูกทำลาย รวมถึงการมีน้ำตาลสะสมรวมตัวกันอยู่บริเวณเส้นประสาทเอง ทำให้การทำงานของเส้นประสาทเสื่อมลง ความรู้สึกในการรับรู้ต่างๆ ลดลง ชาบริเวณปลายมือปลายเท้า อาจมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนและขา ผู้ชายที่เป็นเบาหวานมานานมักพบปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศร่วมด้วย
แผลเบาหวานที่เท้า
การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ทำให้เกิดภาวะปลายประสาทเสื่อมและ/หรือหลอดเลือดส่วนปลายขาอุดตัน ส่งผลให้สูญเสียการรับความรู้สึกที่เท้า เท้าชา เกิดการบาดเจ็บเป็นแผลได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว และมักจะหายช้า เกิดการติดเชื้อเรื้อรัง และอาจลุกลามจนกระทั่งต้องตัดขา ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติและหมั่นดูแลเท้าให้ดี เพื่อป้องกันการเกิดแผลที่เท้า
ความรุนแรงของโรคเบาหวาน
ในแต่ละวันจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน 200 คน หรือ 8 รายต่อชั่วโมง
มีเพียง 10% ของผู้ป่วยเบาหวานที่มีชีวิตอยู่โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
ประเทศไทยมียอดผู้เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวานเฉลี่ยปีละกว่า 8,000 คนและพบว่าคนรุ่นใหม่มีโอกาสเป็นเบาหวานสูงขึ้นจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป