ศูนย์สูติ-นรีเวช

ศูนย์สูติ-นรีเวชโรงพยาบาลปิยะเวท

สุขภาพของสตรีแต่ละช่วงวัยมีเรื่องที่ต้องดูแลและรักษาแตกต่างกัน ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลปิยะเวท พร้อมที่จะให้คำปรึกษาเพื่อไขข้อข้องใจทุกปัญหาของผู้หญิง และให้บริการตรวจรักษาโรคของสุภาพสตรี ตั้งแต่การตรวจทั่วไป ตรวจหามะเร็งปากมดลูก และการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพื่อเป็นการวินิจฉัยป้องกันในเบื้องต้น รวมทั้งให้บริการรองรับผู้ที่มาฝากครรภ์  ตรวจผู้ที่มีภาวะเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ผู้ที่ตั้งครรภ์ผิดปกติ ความผิดปกติของทารกในครรภ์ ตลอดจนรักษาภาวะมีบุตรยากโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว

การให้บริการของศูนย์สูติ-นรีเวช

  • วินิจฉัยครบวงจรเพื่อตรวจและป้องกันโรคของสตรี ตรวจเช็คร่างกาย  และวินิจฉัยโรคของสตรีทุกชนิดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น
    – ตรวจมะเร็งปากมดลูกและการติดเชื้อ HPV และการตรวจหาไวรัส HPV ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
    – ตรวจความผิดปกติของปากมดลูกด้วยการส่องกล้อง (Colposcope)
    – ตรวจอัลตราซาวด์ทางสูตินรีเวช เพื่อวินิจฉัยโรคและความผิดปกติของอวัยวะภายในสตรี
    – ตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์
  • การรักษาโรคด้านอนามัยสตรี ตรวจรักษาทางนรีเวชครอบคลุมทุกโรคของสตรี ยกตัวอย่างโรคที่ให้บริการตรวจรักษาที่พบบ่อย เช่น
    – ภาวะผิดปกติของการมีประจำเดือน เช่น ตกขาว ปวดท้องน้อย ระดูผิดปกติ
    – โรคมะเร็งในสตรี เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก
    – รักษาโรคทางนรีเวชโดยการใช้ยาและผ่าตัด เช่น เนื้องอกมดลูก, ถุงน้ำรังไข่
    – ตรวจรักษาภาวะความผิดปกติของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานโดยการส่องกล้อง (Laparoscopy)

  • การฝากครรภ์และการคลอด เตรียมความพร้อมให้กับสตรีตั้งแต่ระยะก่อนตั้งครรภ์ เตรียมพร้อมสู่การคลอด จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงเวลาคลอด นอกจากนี้ยังช่วยวางแผนการคลอดล่วงหน้าและช่วยดูแลภายหลังการคลอดบุตร เพื่อช่วยให้สตรีทุกคนมีความมั่นใจก่อนกลับไปทำงาน
    – วางแผนการตั้งครรภ์ ตรวจสุขภาพ และให้บริการวัคซีนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการตั้งครรภ์
    – ตรวจดูแลและวินิจฉัยโรคในทารกก่อนคลอด
    – ตรวจดูทารกในครรภ์ด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ 4 มิติ
    – การคลอดบุตร ทั้งคลอดธรรมชาติ และการผ่าตัดคลอดบุตร
    – ให้คำปรึกษาหลังคลอดบุตร และช่วยเตรียมความพร้อมในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม

  • การตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์ ดูแลรักษาการตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมทั้งตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ เช่น ความพิการแต่กำเนิด ปากแหว่ง เพดานโหว่ ลิ้นหัวใจพิการ ทารกหัวบาตร  (ศีรษะบวมน้ำ) ภาวะไม่มีสมองและไม่มีกะโหลกศีรษะรวมทั้งโครโมโซมผิดปกติซึ่งมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับอายุครรภ์ขณะนั้นได้แก่
    – การตรวจสารชีวเคมีในเลือดมารดาขณะตั้งครรภ์ (Maternal Serum Screening Test)
    – การเจาะตรวจน้ำคร่ำ (Amniocentesis) เพื่อตรวจโครโมโซม
    – การตัดชิ้นเนื้อจากรก (Chorionic Villi Sampling)
    – การเจาะเลือดจากสายสะดือทารกในครรภ์ (Cordocentesis)
    – การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) แบบ 2 มิติ 3 มิติ และ 4 มิติ            
    – ตรวจหากลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม             
    – ตรวจเลือด และ DNA เพื่อตรวจหาโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย

  • การคุมกำเนิดและวางแผนครอบครัว บริการคุมกำเนิดด้วยวิธีต่างๆ เช่น
    – รับประทานยา            
    – ฉีดยา            
    – ใส่ห่วง IUD            
    – ยาฝังคุมกำเนิด และทำหมัน

  • ดูแลและให้คำปรึกษาสตรีวัยหมดระดู (วัยทอง) แพทย์ประจำศูนย์สูตินรีเวช พร้อมที่จะให้การดูแลและคำแนะนำ เพื่อให้คุณสุภาพสตรีเตรียมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างเข้าใจ           
    – ให้คำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน            
    – ให้คำปรึกษาและรักษาในเรื่องฮอร์โมน กระดูก และอื่นๆ            
    – ตรวจหาความหนาแน่นของกระดูกเพื่อวิเคราะห์โรคกระดูกพรุนในวัยทอง

การรักษาภาวะมีบุตรยาก

สำหรับสุภาพสตรีที่มีปัญหาการมีบุตรยาก  กลุ่มที่แท้งซ้ำซ้อน และกลุ่มที่มีโรคที่ถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม  ศูนย์สูตินรีเวชพร้อมให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา สืบค้นหาสาเหตุ ตรวจค้นเพิ่มเติม และให้การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

เทคโนโลยีทางการรักษา

  • การตรวจรักษาภาวะความผิดปกติของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานโดยการส่องกล้อง (Laparoscopy)
  • ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
  • ตรวจดูทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจนด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ 4 มิติ

การตรวจรักษาภาวะความผิดปกติของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานโดยการส่องกล้อง (Laparoscopy)

เป็นการตรวจโดยการนำกล้องเข้าไปในอุ้งเชิงกรานผ่านทางผนังหน้าท้องโดยศัลยแพทย์จะดูภาพผ่านจอขณะที่ทำผ่าตัดด้วยเครื่องมือผ่านรูเล็กๆเหล่านี้ซึ่งจะสามารถขยายภาพที่กำลังผ่าตัดให้เห็นชัดกว่าการผ่าตัดธรรมดาโดยกระทบกระเทือนต่ออวัยวะภายในน้อยที่สุดลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่นเสียเลือดมาก

โรคทางนรีเวชที่ใช้วิธีผ่าตัดผ่านกล้อง

  • ถุงน้ำในรังไข่ หรือเนื้องอกบางชนิดในรังไข่
  • เนื้องอกมดลูก (ชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง)
  • ปวดท้องน้อยเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน
  • ภาวะมีบุตรยาก
  • ตรวจหาการท้องนอกมดลูก (มักเกิดในท่อนำไข่ของผู้หญิง), โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ (PID)
  • ตรวจหาเนื้อเยื่อพังผืด (เนื้อเยื่อแผลเป็นในท้อง)

ข้อดีของการผ่าตัดอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานด้วยการส่องกล้อง

  • สามารถทำการผ่าตัดได้อย่างประณีตเมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดธรรมดา
  • แผลของการผ่าตัดผ่านกล้องมีขนาดเล็กกว่าการผ่าตัดแบบเดิมมาก
  • ช่วยให้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยลง
  • โอกาสที่จะสร้างความเสียหายแก่อวัยวะอื่นมีน้อยมาก

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

  • มะเร็งปากมดลูก คร่าชีวิตผู้หญิงไทยเฉลี่ย 14 คนต่อวัน หรือเฉลี่ยทั่วโลกทุก 2 นาทีจะมีผู้หญิง 1 คน เสียชีวิตจากโรคนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก (หรือประมาณ 70% ของผู้ป่วยโรคนี้) มาจากการอักเสบเรื้อรังของปากมดลูกจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human papilloma Virus : HPV)
  • เช็คก่อน รู้ก่อน ป้องกันได้ โดยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเทคโนโลยี Cy-Prep Pap Test ซึ่งเป็นการตรวจหาความผิดปกติของเซลล์บริเวณปากมดลูก โดยการเก็บเซลล์จากบริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์เฉพาะ เพื่อดูความผิดปกติของเซลล์ก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง
  • นอกจากนี้ยังมีการตรวจทางชีวโมเลกุล ร่วมกับการตรวจ Pap Test เพื่อหาเชื้อไวรัส HPV โดยตรง ที่เรียกว่า Cy-Prep Plus HPV DNA Testing ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มแรกได้

ตรวจดูทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจนด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ 4 มิติ

อัลตราซาวด์ 4 มิติ (Ultrasound 4 D) เป็นคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงกว่า 20,000 Hz ปัจจุบันได้นำคลื่นเสียงอัตราซาวด์นี้มาพัฒนาเป็นเครื่องมือแพทย์ เพื่อใช้ในการตรวจวินิจฉัยโรคต่างๆ รวมทั้งการตรวจสุขภาพของทารกในครรภ์ โดยอัลตราซาวด์ 4 มิติ สามารถเก็บภาพ 3 มิติแต่ละภาพไว้แล้วนำมาแสดงผลเรียงต่อกัน กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวเสมือน เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น จึงช่วยให้สามารถศึกษาพฤติกรรมของทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจน รวมทั้งสามารถตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือโครโมโซมของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่ 1-2 เดือนแรกของการตั้งครรภ์

อัลตราซาวด์ 4 มิติ บอกอะไรได้บ้าง

  • การเจริญเติบโต และพัฒนาการในครรภ์
  • เพศของทารก
  • ตำแหน่งทารก สายสะดือ และปริมาณน้ำคร่ำ
  • โครงสร้างกะโหลกศีรษะและสมอง
  • หัวใจและการไหลเวียนเลือด
  • กระดูกสันหลัง กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะ และไต
  • แขน ขา มือ เท้า และนิ้ว
  • ใบหน้า และอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้า
  • อัตราการเจริญเติบโตของทารก ขนาดรอบศีรษะ ความยาวและน้ำหนัก

ข้อดีของการตรวจอัลตราซาวด์ 4 มิติ

  • มองเห็นพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกในครรภ์ได้อย่างชัดเจน เช่น สามารถมองเห็นว่าลูกกำลังหาว ดูดนิ้ว หรือยิ้ม
  • เห็นอวัยวะภายนอกของทารกในครรภ์ได้ชัดเจนกว่าการตรวจด้วยอัลตราซาวด์ 2 มิติเช่นใบหน้าแขนขานิ้วมือที่ดูมีความลึกและมีมิติมากขึ้น
  • ย่นระยะเวลาในการไปตรวจครรภ์ของคุณแม่สั้นลงเพราะสามารถดูความสมบูรณ์การเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกในครรภ์ได้จากภาพที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์
  • สร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูกที่เริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ทารกยังอยู่ในครรภ์