อาการตกขาว (leucorrhea)
ปกติแล้วในช่องคลอดจะมีจุลชีพอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากทั้งแบคทีเรีย,เชื้อรา,เชื้อไวรัส ส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อ Lactobacilli จำนวนมากสุดเพื่อรักษาสภาพความเป็นกรดอ่อนๆสารคัดหลั่งที่ถูกขับออกมาทางช่องคลอด มีหน้าที่ช่วยในการหล่อลื่น ป้องกันการติดเชื้อและระคายเคือง ซึ่งลักษณะ สี และปริมาณของตกขาว จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและแต่ละช่วงของรอบเดือนแต่หากมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลง เช่น ภูมิต้านทานลดลง การสวนล้างช่องคลอด การทำหัตถการเกี่ยวกับช่องคลอดหรือได้รับเชื้อก่อโรคเข้ามา อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง Lactobacilli ลดลงและเชื้อจุลชีพก่อโรคเพิ่มแทนที่
สีของตกขาว
สีแดง: เลือดในช่วงที่มีประจำเดือน จะเกิดขึ้นทุก 28 วัน หรืออยู่ในช่วง 21-35 วัน แต่หากมีเลือดออกในช่วงอื่นนอกเหนือจากช่วงที่มีประจำเดือน ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุต่อไป
สีขาว: ตั้งแต่สีขาวจนถึงสีเหลืองอ่อน เป็นตกขาวปกติที่พบได้ทั่วไป แต่หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีกลิ่น คัน หรือตกขาวมีลักษณะขาวเหนียวร่วมกับมีอาการอื่น ความผิดปกตินี้อาจเกิดจากการติดเชื้อราได้
สีเหลืองเขียว: ลักษณะสีเหลืองเข้ม เหลืองเขียว จนถึงเขียวเหนียวเป็นก้อนหรือมีกลิ่นร่วมด้วย อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์
สีใส: ลักษณะคล้ายไข่ขาว ใสหรือค่อนข้างขาว ลื่น คือ ตกขาวปกติ
สีเทา: ลักษณะเด่นของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ถ้ามีกลิ่น คัน ระคายเคือง หรือมีอาการแดงบริเวณรอบๆ ช่องคลอด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
วิธีป้องกันการเกิดตกขาว
- หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด และน้ำยาอนามัยล้างเฉพาะที่ ควรใช้เพียงแค่น้ำสะอาดล้างภายนอกเพียงอย่างเดียวเพื่อรักษาความสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด
- หลีกการใช้แผ่นอนามัยติดต่อกันทุกวัน เนื่องจากจะทำให้เกิดการอับชื้นได้
- ควรใช้ถุงยางอนามัยขณะที่มีเพศสัมพันธ์
- หากพบว่ามีการตกขาวผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา
- ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะเป็นระยะเวลานาน หากไม่จำเป็น
- ดูแลอวัยวะเพศให้แห้งอยู่เสมอ ไม่อับชื้น
การเกิดภาวะตกขาวนั้น เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป ทางที่ดีที่สุด หากรู้สึกว่ามีอาการตกขาวที่ผิดปกติ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาและคำแนะนำจากแพทย์อย่างถูกต้อง หากปล่อยไว้ นอกจากจะเกิดความรำคาญใจ แล้วยังส่งผลให้เกิดการรักษาที่ยากตามมาอีกด้วย