ข้อเข่าเสื่อม…อีกทางเลือกการรักษา

Untitled-2

PRP (Platelet Rich Plasma) ฉีดเกล็ดเลือดแบบเข้มข้น รักษาข้อเสื่อม กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น

PRP (Platelet Rich Plasma) หรือการรักษาด้วยพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น เป็นทางเลือกในการรักษา เพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บของอาการข้อเข่าเสื่อมการบาดเจ็บของเส้นเอ็น เอ็นกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ เพื่อเข้าไปเร่งกระบวนการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด

PRP มีประโยชน์อย่างไร? ข้อห้ามฉีดมีอะไรบ้าง?

Platelet-rich plasma หรือ PRP คือ ส่วนของเลือดที่ประกอบไปด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้นกว่าปกติ 3-5 เท่าเและมี growth factor หลายชนิดโดยเกิดจากกระบวนการนำเลือดไปปั่นเพื่อแยกออกมาเป็นนวัตกรรมการรักษา ทางเลือกด้วยวิธีธรรมชาติ การศึกษาวิจัยทางการแพทย์ในปัจจุบันพบว่า PRP ประกอบด้วย growth factor สำคัญหลายตัวช่วยในการรักษาซ่อมแซมเนื้อเยื่อเส้นเอ็นกล้ามเนื้อรวมถึงกระดูกอ่อนและได้ผลดีกว่าการฉีด น้ำไขข้อเทียม (HA: Hyaluronic acid) ติดตามที่ 3,6,12 เดือน (1)ข้อดีของ PRP คือ ผลข้างเคียงน้อย เพราะเป็นการนำเลือดของคนไข้เองมาใช้ ลดโอกาสการแพ้ และภาวะแทรกซ้อน

ประโยชน์ของ PRP ที่นำมาใช้รักษาทางการแพทย์

  • ภาวะเอ็นข้อศอกด้านนอกอักเสบเรื้อรัง (lateral epicondylitis)
  • เอ็นสะบ้าอักเสบ (Runner or Jumper knee)
  • เอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles tendinitis)
  • รองช้ำ (plantar fasciitis)
  • ข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of knee) ระยะแรกถึงปานกลาง
  • เสริมการรักษาหลังการผ่าตัดเย็บซ่อมเอ็นหัวไหล่หรือหมอนรองข้อเข่า
  • การบาดเจ็บกล้ามเนื้อแบบเรื้อรัง

ในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมฉีดกี่ครั้งดี? มีการศึกษาทางการแพทย์โดยมีสุ่มผู้ร่วมวิจัยออกเป็น 3 กลุ่ม

  • กลุ่มแรก ฉีด PRP 1 ครั้ง (PRP-1)
  • กลุ่ม 2 ฉีด PRP 2 ครั้ง โดยเข็มที่ 2  ฉีดห่างจากเข็มแรก 3 สัปดาห์   (PRP-2)
  • กลุ่มที่ 3 ฉีด HA 3 เข็ม ห่างกันทุก 1 สัปดาห์ (HA)

ผลการศึกษาพบว่า

  • ที่ 1 เดือน อาการดีขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์  ในกลุ่ม Platelet-rich plasma และอาการดีขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์  ในกลุ่ม HA
  • ที่ 3 เดือน อาการดีขึ้นเกิน 30 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่ม Platelet-rich plasma-1, Platelet-rich plasma-2, HA พบได้ 86 เปอร์เซ็นต์, 100 เปอร์เซ็นต์, 0 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
  • Platelet-rich plasma-2 ให้ผลดีกว่า Platelet-rich plasma-1

ขั้นตอน Platelet Rich Plasma ดังนี้

  • เจาะเลือด 15-20 cc นำเลือดมาปั่นโดยเครื่องปั่นทางการแพทย์ ตามรอบและระยะเวลาที่กำหนด แยกเก็บส่วนประกอบของเลือดที่มีเกล็ดเลือดและ growth factor เข้มข้น นำมาฉีดบริเวณที่ต้องการ ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีด  PRP
  • ควรงดยา NSAIDs ก่อนและหลังฉีด PRP เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ควรดื่มน้ำมากๆ (ตั้งแต่ก่อนวันนัดฉีด 1 วัน) ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร หลังการฉีดอาจมีอาการปวดตึงบริเวณตำแหน่งที่ทำการรักษา แนะนำให้ใช้ความเย็นประคบ 15 นาที หลังฉีด 6-8 ชั่วโมง หรือรับประทานยา paracetamol/  ultracet เมื่อมีอาการปวด หลังการฉีด PRP สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ผู้ที่ไม่เหมาะสำหรับรักษาด้วย PRP ได้แก่ มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โลหิตจาง ขั้นรุนแรง มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด เช่น มีไข้ ไอ เป็นหวัด หรือมีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด โรคทางระบบอิมมูน ได้แก่ โรค SLE, โรครูมาตอยด์โรคเกาต์ หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
PRP สามารถร่วมในการรักษา โรคที่มีความเสื่อมของเส้นเอ็นบริเวณ ไหล่ ข้อศอก เอ็นร้อยหวาย พังผืดที่ฝ่าเท้าอักเสบเรื้อรัง รวมถึงการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมระยะแรก ข้อต่อ กระดูกสันหลังเสื่อม โรคไขข้ออักเสบเรื้อรัง หรือได้รับบาดเจ็บที่เส้นเอ็น เป็นอีกทางเลือกของการรักษาที่มีขั้นตอนน้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด มีการบอบช้ำของเนื้อเยื่อน้อย ไม่เกิดรอยแผลเป็น เร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อตามธรรมชาติ ชะลอความเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อและข้อต่อ อีกทั้งประหยัดเวลาเมื่อเทียบกับทางเลือกแบบการผ่าตัด

แพ็กเกจฉีดเกล็ดเลือดแบบเข้มข้น รักษาข้อเข่าเสื่อม