การทำเลสิค

หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการคืนความชัดเจนให้กับการมองเห็น การทำเลสิค (LASIK) คือหนึ่งในทางออกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เลสิค คือการ ผ่าตัดสายตาด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ที่สามารถแก้ไขภาวะ สายตาสั้น สายตายาว และ สายตาเอียง ได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย ช่วยให้ผู้ที่ต้องพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์มานาน กลับมามองเห็นได้อย่างอิสระและมั่นใจ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกประเด็นสำคัญของ ผ่าตัดเลสิค ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอน การทำเลสิค แบบทีละขั้น, การประเมินความเหมาะสม, ความเสี่ยงและ ภาวะแทรกซ้อนเลสิค ที่ควรระวัง, แนวทาง การฟื้นตัวหลังเลสิค, ไปจนถึงคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัย พร้อมแนะนำ ศูนย์เลสิค ที่ได้มาตรฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจ เพราะการมีสายตาที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการมองเห็น แต่คือคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกวัน หากคุณกำลังพิจารณาว่า ทำเลสิค ดีไหม?” บทความนี้มีคำตอบให้คุณแบบครบถ้วนในที่เดียว

การทำเลสิค
การทำเลสิค

Introduction to LASIK Surgery

เลสิคคืออะไร (What is LASIK?)

เลสิค (LASIK) ย่อมาจาก “Laser-Assisted in Situ Keratomileusis” เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ใช้เลเซอร์ในการแก้ไขปัญหาค่าสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตายาว และ สายตาเอียง โดยการปรับรูปร่างกระจกตาให้แสงตกกระทบที่จอประสาทตาได้อย่างแม่นยำ

ในปัจจุบัน ผ่าตัดเลสิค ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นการรักษาที่ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์รวดเร็ว และช่วยลดการพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ ในประเทศไทย มีผู้เข้ารับการผ่าตัดเลสิคจำนวนมากต่อปี และการพัฒนาเทคโนโลยีเลเซอร์ทำให้ผลลัพธ์ยิ่งแม่นยำมากขึ้น

ขั้นตอนของอการผ่าตัดเลสิค เริ่มต้นจากการเปิดฝากระจกตาด้วยเครื่องมือไมโครเคอราโทมหรือเลเซอร์ จากนั้นใช้เลเซอร์เอ็กไซเมอร์ปรับแต่งความโค้งของกระจกตาให้เหมาะสมกับค่าสายตาของแต่ละบุคคล แล้วจึงปิดฝากระจกตากลับลงไปโดยไม่ต้องเย็บ

สิ่งที่ควรทราบคือ เลสิคไม่ได้เหมาะกับทุกคน ผู้เข้ารับการรักษาควรผ่านการประเมินอย่างละเอียดจากจักษุแพทย์ และควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านเพื่อการตัดสินใจอย่างมั่นใจ

การเข้าใจว่าเลสิคคืออะไร เป็นก้าวแรกของการเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต ด้วยเหตุนี้ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การผ่าตัดเลสิค


วิธีการทำงานของเลสิค (How LASIK Works)

การ ผ่าตัดเลสิค ทำงานโดยการเปลี่ยนรูปร่างของกระจกตา (cornea) เพื่อให้แสงโฟกัสตรงไปยังจอประสาทตาอย่างแม่นยำ โดยทั่วไปแล้ว สาเหตุของปัญหาสายตาคือการที่แสงไม่สามารถรวมจุดบนจอประสาทตาได้พอดี

ตัวอย่างเช่น:

  • ในผู้ที่มีสายตาสั้น กระจกตามีความโค้งมากเกินไป หรือความยาวลูกตามากเกิน ทำให้แสงตกก่อนถึงจอประสาทตา
  • สายตายาว เกิดจากกระจกตาแบนเกิน หรือความยาวลูกตาสั้นเกิน
  • ส่วนสายตาเอียง เกิดจากรูปร่างกระจกตาไม่สม่ำเสมอ

เทคโนโลยีเลเซอร์ใน การทำเลสิค ได้แก่:

  • Excimer Laser ใช้พลังงานแสงความแม่นยำสูงในการปรับแต่งกระจกตา
  • Femtosecond Laser สำหรับเปิดฝากระจกตาอย่างแม่นยำ แทนการใช้ใบมีด

ขั้นตอนคร่าว ๆ คือ

  1. แพทย์ใช้เลเซอร์เปิดฝาเล็ก ๆ บนกระจกตาชั้นนอก
  2. ใช้ Excimer Laser ปรับรูปร่างกระจกตาอย่างแม่นยำตามค่าสายตา
  3. ปิดฝากลับโดยไม่ต้องเย็บ

การใช้เลเซอร์แทนมีดช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความแม่นยำ ทำให้การฟื้นตัวรวดเร็วและผลลัพธ์คงที่ การทำงานของเลสิคจึงเป็นการผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อฟื้นฟูการมองเห็นอย่างยั่งยืน


ประโยชน์ของ การผ่าตัดเลสิค (Benefits of LASIK Surgery)

การมองเห็นที่ดีขึ้น (Improved Vision)

หนึ่งในเหตุผลหลักที่ผู้คนเลือก ทำเลสิค คือเพื่อการมองเห็นที่คมชัดขึ้น การผ่าตัดเลสิคสามารถปรับค่าสายตาให้ใกล้เคียงกับภาวะปกติได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะ สายตาสั้น, สายตายาว, หรือ สายตาเอียง ซึ่งอาจต้องพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์มาเป็นเวลานาน

หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจำนวนมากสามารถมองเห็นได้ชัดเจนในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง และบางรายอาจไม่ต้องใช้แว่นตาอีกเลย ผลการวิจัยพบว่า 96–98% ของผู้ที่ ทำเลสิค มีระดับการมองเห็นดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

นอกจากการมองเห็นที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุเล็กน้อยที่เกิดจากแว่นตาหลุด เลอะ หรือคอนแทคเลนส์เคลื่อน การฟื้นฟูการมองเห็นในระดับที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระคือความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ และหลายคนกล่าวว่าเป็น “การลงทุนกับสายตาที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต”


ความสะดวกสบายและผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์ (Convenience and Lifestyle Impact)

การผ่าตัดเลสิค ไม่เพียงแต่ช่วยปรับค่าสายตาให้ดีขึ้น แต่ยังสร้างความสะดวกในชีวิตประจำวันอย่างมาก ผู้ที่เคยต้องใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ตลอดเวลา จะพบว่าชีวิตหลังเลสิคง่ายขึ้น ไม่ต้องพกอุปกรณ์เสริมดูแลสายตา หรือกังวลเรื่องเลนส์แห้งในระหว่างวัน

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ หรือขี่จักรยาน เลสิคช่วยลดข้อจำกัดในการมองเห็นและความยุ่งยากจากแว่นหรือเลนส์ ตัวอย่างเช่น นักกีฬา หรือผู้ที่ทำงานในสายอาชีพเฉพาะ เช่น ทหาร ตำรวจ นักบิน ก็จะได้รับประโยชน์จากการไม่มีสิ่งรบกวนการมองเห็น

นอกจากนี้ เลสิคยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เพราะไม่ต้องซื้อเลนส์ คอนแทคเลนส์ น้ำยาล้าง และอุปกรณ์ดูแลอื่น ๆ อีกต่อไป ทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างคล่องตัว มั่นใจ และมีอิสระในการทำกิจกรรมทุกวัน


ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณาของ การผ่าตัดเลสิค (The Risks and Considerations of LASIK)

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น (Potential Complications)

แม้ว่าการผ่าตัด เลสิค จะมีความปลอดภัยสูงและได้ผลลัพธ์ดีในผู้ป่วยส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางราย โดยเฉพาะหากผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด

ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ เช่น:

  • อาการตาแห้ง (Dry Eye Syndrome)
  • มองเห็นแสงกระจายหรือแสงฟุ้งตอนกลางคืน (Glare & Halos)
  • การมองเห็นไม่คมชัดเท่าที่คาดหวัง
  • กระจกตาบางหรือเกิดภาวะเบ้ากระจกตาโป่ง (Ectasia)

แม้ภาวะเหล่านี้จะพบไม่บ่อย แต่ก็สามารถส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ดังนั้นจึงควรเลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานสูง และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินความเสี่ยงแต่ละกรณีอย่างถูกต้อง


ใครควรหลีกเลี่ยงการ ทำเลสิค (Who Should Avoid LASIK?)

การ ทำเลสิค ไม่เหมาะสำหรับทุกคน ผู้ที่มีปัญหาต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ:

  • ผู้ที่มีความหนาของกระจกตาน้อยเกินไป
  • ผู้ที่มีโรคตาเรื้อรัง เช่น กระจกตาย้วย (Keratoconus)
  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคลูปัส
  • ผู้ที่มีความคาดหวังไม่สมเหตุสมผล เช่น ต้องการเห็นชัดแบบ 100% ทุกระยะ

นอกจากนี้ คนที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี หรือค่าสายตายังไม่คงที่ ก็ไม่ควร ทำเลสิค เช่นกัน เพราะอาจมีความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงค่าสายตาในอนาคต

การประเมินอย่างรอบคอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้มั่นใจว่าเลสิคเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับคุณจริง ๆ


ขั้นตอน การผ่าตัดเลสิค : ทีละขั้นตอน (The LASIK Procedure: Step by Step)

การปรึกษาก่อนผ่าตัด (Pre-operative Consultation)

การปรึกษาก่อนการผ่าตัดเลสิคถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด เพราะเป็นช่วงที่แพทย์จะทำการประเมินว่า คุณเหมาะสมกับการทำเลสิคหรือไม่ โดยกระบวนการเริ่มจากการซักประวัติสุขภาพทั่วไปและสุขภาพตาอย่างละเอียด รวมถึงโรคประจำตัวที่อาจมีผลต่อผลลัพธ์การผ่าตัด

จากนั้นจะมีการตรวจวัดค่าสายตาอย่างละเอียด รวมถึง:

  • การวัดความโค้งของกระจกตา (Corneal Topography)
  • การวัดความหนาของกระจกตา
  • ตรวจภาวะตาแห้ง และคุณภาพน้ำตา
  • ตรวจจอประสาทตาและความผิดปกติอื่น ๆ

หากพบว่าคุณมีค่าสายตาคงที่ กระจกตามีความหนาเพียงพอ และไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ แพทย์จะอธิบายประเภทของเลสิคที่เหมาะสม เช่น Femto LASIK, SBK LASIK หรือ Trans PRK

ช่วงนี้ยังเป็นโอกาสที่คุณจะได้ถามคำถาม พูดคุยข้อสงสัย และทำความเข้าใจผลลัพธ์ที่สามารถคาดหวังได้อย่างสมเหตุสมผลก่อนตัดสินใจ


วัน ผ่าตัดเลสิค (The Day of the Surgery)

ในวัน ผ่าตัดเลสิค กระบวนการโดยรวมใช้เวลาเพียงประมาณ 15–30 นาที และเป็นการผ่าตัดแบบผู้ป่วยนอก ซึ่งคุณสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

ขั้นตอนในวันผ่าตัดมีดังนี้:

  1. พนักงานจะทำความสะอาดบริเวณรอบดวงตา และหยอดยาชาเฉพาะที่
  2. คุณจะนอนบนเตียงใต้เครื่องเลเซอร์ แพทย์จะใช้เครื่องมือเปิดเปลือกตาค้างไว้
  3. เริ่มขั้นตอนการเปิดฝากระจกตา (ด้วยใบมีดหรือเลเซอร์ขึ้นอยู่กับวิธี)
  4. ใช้ Excimer Laser ปรับแต่งความโค้งกระจกตา ตามค่าสายตาเฉพาะบุคคล
  5. ปิดฝากระจกตากลับเข้าที่ โดยไม่ต้องเย็บแผล

หลังการผ่าตัด แพทย์จะให้คุณพักสายตาชั่วครู่ และตรวจสภาพตาก่อนให้กลับบ้าน โดยคุณควรมีผู้ดูแลมารับ และสวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงจ้า


การฟื้นตัวและการดูแลหลังผ่าตัด (Recovery and Aftercare)

การดูแลหลังผ่าตัด (Post-operative Care)

หลังจากผ่าตัดเลสิค การดูแลตัวเองในช่วงแรกเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมาย โดยทันทีหลังผ่าตัด คุณอาจรู้สึกเคืองตา น้ำตาไหล หรือเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา ซึ่งเป็นอาการปกติและจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วัน

คำแนะนำหลังผ่าตัด ได้แก่:

  • พักสายตาอย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงในวันแรก
  • ใช้ยาหยอดตาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตาเด็ดขาด
  • งดแต่งหน้า งดว่ายน้ำ หรือใช้น้ำที่อาจมีสิ่งสกปรกเข้าตา
  • สวมแว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง เพื่อป้องกันแสงจ้าและฝุ่นละออง

การดูแลที่ดีในช่วงแรกช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น ตาแห้งหรือติดเชื้อ และสนับสนุนการฟื้นฟูของกระจกตาได้อย่างสมบูรณ์แบบ


การนัดติดตามผล (Follow-up Appointments)

การนัดติดตามผลหลังผ่าตัดเลสิคเป็นอีกขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นการประเมินความคืบหน้าของการฟื้นตัวและตรวจสอบภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

โดยปกติแล้ว แพทย์จะนัดติดตามผลตามช่วงเวลา เช่น:

  • ภายใน 24–48 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
  • หนึ่งสัปดาห์
  • หนึ่งเดือน
  • สามเดือน
  • หกเดือน หรือมากกว่านั้นตามดุลยพินิจของแพทย์

ในแต่ละนัด แพทย์จะตรวจระดับการมองเห็น ความเรียบร้อยของกระจกตา และความสมบูรณ์ของเนื้อเยื่อ หากมีภาวะใด ๆ เกิดขึ้น เช่น ภาวะตาแห้งหรือสายตายังไม่คงที่ แพทย์จะให้การดูแลหรือคำแนะนำที่เหมาะสม

การมาติดตามตามนัดอย่างสม่ำเสมอ คือการดูแลรักษาผลลัพธ์ที่ดีของการผ่าตัดให้ยั่งยืนและปลอดภัยในระยะยาว


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลสิค (FAQs About LASIK)

1. การทำเลสิค เจ็บหรือไม่?
ไม่เจ็บ เนื่องจากแพทย์จะหยอดยาชาเฉพาะที่ก่อนการผ่าตัด อาจมีความรู้สึกกดเล็กน้อยช่วงเปิดฝากระจกตา แต่ไม่รู้สึกเจ็บ และหลังผ่าตัดอาจระคายเคืองหรือแสบตาเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง

2. ใช้เวลานานแค่ไหนในการฟื้นตัว?
ผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นชัดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง และสามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจกรรมประจำวันได้ภายใน 2–3 วัน แต่การฟื้นตัวเต็มที่อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์

3. ผลของเลสิคถาวรหรือไม่?
ผลลัพธ์ของเลสิคถือว่าถาวรในกรณีที่ค่าสายตาคงที่ก่อนการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางสายตาตามวัย เช่น สายตายาวตามอายุ (Presbyopia) ยังสามารถเกิดขึ้นได้

4. ถ้า ทำเลสิค ไปแล้วต้องใส่แว่นอีกไหม?
บางคนอาจยังต้องใช้แว่นอ่านหนังสือเมื่ออายุมากขึ้น หรือมีค่าสายตากลับมาเล็กน้อย ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุและการดูแลสายตาหลังผ่าตัด

5. เลสิคปลอดภัยแค่ไหน?
โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสูง โดยเฉพาะเมื่อทำในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน และแพทย์มีประสบการณ์ ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงพบได้น้อยมาก


สรุป (Conclusion)

การทำเลสิค เป็นการผ่าตัดที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้มีปัญหาสายตาอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความแม่นยำสูง การผ่าตัดนี้สามารถช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามองเห็นชัดเจนโดยไม่ต้องพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป

แม้ว่าจะมีความเสี่ยงและข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ด้วยการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ก็สามารถลดความเสี่ยงเหล่านั้นได้อย่างมาก

หากคุณกำลังพิจารณาว่าเลสิคเหมาะกับคุณหรือไม่ การศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน และเข้ารับการปรึกษาจาก ศูนย์เลสิค ที่ได้มาตรฐานคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจด้วยความมั่นใจ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ

Scroll to Top