เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ Endometriosis หมายถึงอะไร?
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หมายถึง เยื่อบุโพรงมดลูกที่ไปเจริญเติบโตอยู่ผิดที่นอกโพรงมดลูก โดยอาจแทรกตัวอยู่ในผนังกล้ามเนื้อมดลูก หรืออาจเข้าไปในช่องท้องและไปเจริญเติบโตอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ในอุ้งชิงกราน เช่น เยื่อบุช่องท้อง รังไข่ ผนังลำไส้ และผนังกระเพาะปัสสาวะ และในบางครั้งอาจกระจายไปสู่อวัยวะที่อยู่ไกล ๆ ได้ เช่น กระบังลม ปอด และ ช่องเยื่อหุ้มปอด เป็นต้น
1 ใน 10 ของผู้หญิงจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ความชุกในการเกิด ในคนทั่วไปเจอได้ 5-10% ในคนที่มีอาการปวดท้องน้อยเจอได้ 50% และในคนที่มีบุตรยากเจอได้ 25-40%
สาเหตุการเกิด
ทฤษฎีการเกิดของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นั้นมีหลากหลาย ดังนี้
- ทฤษฎีการไหลย้อนทางของประจำเดือนผ่านท่อนำไข่เข้าไปฝังตัวอยู่ตามอวัยวะต่างๆภายในช่องท้อง (Sampson’s retrograde menstruation)
- ทฤษฎี coelomic metaplasia
- ทฤษฎีการ induction คือ มีการเหนี่ยวนำเซลล์ให้กลายเป็นเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูก
- ทฤษฎีการแพร่กระจายทางหลอดเลือดและระบบน้ำเหลือง
- ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงของระบบภูมิคุ้มกัน
- ทฤษฎีทางพันธุกรรม
- ทฤษฎีทาง Epigenetics นั่น คือ เปลี่ยนแปลงของการแสดงออกของยีนที่เกิดจากกระบวนการอื่น นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงลำดับดีเอ็นเอ
อาการและอาการแสดงของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- อาการปวดบริเวณท้องน้อย อาการปวดประจำเดือนที่มากผิดปกติ โดยความรุนแรงของอาการปวดจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
- บางรายที่รอยโรคอยู่ที่ตำแหน่งหรือใกล้กับลำไส้ตรง ก็จะมีอาการปวดหน่วงลงทวารหนักหรือ คนไข้บางรายจะ มาพบแพทย์ด้วยถ่ายอุจจาระเป็นเลือดได้
- อาการเจ็บในอุ้งเชิงกรานขณะมีเพศสัมพันธ์
- อาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง
- ภาวะมีบุตรยากซึ่งสัมพันธ์กับการอักเสบและการเกิดพังผืดในอุ้งเชิงกรานจากตัวโรค
- มีเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน
- อาการท้องอืด
แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค
- การวินิจฉัยโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่จำเป็นต้องอาศัยการตรวจภายในและ/หรือการตรวจทางทวารหนักเป็นสำคัญ เพื่อหาตำแหน่งและช่วยในการประเมินความรุนแรงของโรค ความผิดปกติที่อาจตรวจพบ ได้แก่ มดลูกโต คลำพบตุ่มแข็งกดเจ็บด้านหลังมดลูก มดลูกเอียงหรือคว่ำหลัง จากการมีพังผืดดึงรั้ง และคลำพบก้อนหรือถุงน้ำบริเวณรังไข่
- สิ่งที่ตรวจพบจากการตรวจร่างกายค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นกับตำแหน่ง และขนาดของเยื่อบุโพรงมดลูกที่มาฝังตัว และ ถึงแม้ตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติ ก็ไม่สามารถตัดภาวะภาวะนี้ออกไปได้
- นอกจากนี้ยังมีการทำ Surgical diagnosis คือการผ่าตัดเพื่อตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจดูพยาธิวิทยา แต่ในปัจจุบันการผ่าตัดไม่ใช่ Gold standard ในการวินิจฉัยแล้ว เราจะทำในกรณีที่การตรวจด้วยวิธีการอื่นๆแล้วไม่พบแต่ ยังคงสงสัยโรคนี้หรือในกรณีที่ทำการรักษาไปแล้ว แต่คนไข้อาการไม่ดีขึ้น
- การตรวจอื่นๆที่กล่าวถึง คือ การอัลตราชาวด์ทางช่องคลอดนั่นเอง
- รอยโรคหรือความรุนแรงของโรคที่มีอยู่จะไม่สอดคล้องกับอาการแสดง เช่น บางคนรอยโรคเยอะมากแต่อาจจะมีอาการเล็กน้อยก็ได้
ลักษณะของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เราอาจจะเห็นเป็นจุดสีน้ำตาลหรือม่วงคล้ำ บริเวณผิวของรังไข่ มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ และเยื่อบุช่องท้อง
- อาจจะเห็นเป็นก้อนในรังไข่ หรือ Chocolate cyst
แนวทางการรักษาภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- การใช้ยา ได้แก่ -ยาแก้ปวดกลุ่มที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เพื่อช่วยลดอาการปวดประจำเดือนและอาการปวดท้องน้อย – ยาฮอร์โมน ซึ่งมีทั้งยากิน ยาฉีด และห่วงฮอร์โมนที่ใส่ในโพรงมดลูก เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม โปรเจสติน danazol ยาฉีดคุมกำเนิด ห่วงฮอร์โมน และยาฉีด GnRH agonist ยาต่าง ๆ เหล่านี้ออกฤทธิ์กดการ ทำงานของรังไข่ ทำให้รอยโรคของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ฝ่อเล็กลง ทำให้ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และอาการปวดท้องน้อยได้
- การผ่าตัด โดยการผ่าตัดนั้น เราต้องการให้ตัดเอารอยโรคของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ออกให้หมดหรือตัดออก ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำให้อวัยวะต่างๆในอุ้งเชิงกรานกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ปกติ ซึ่งวิธีการผ่าตัด รักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มีทั้งการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องและการผ่าตัดผ่านทางหน้าท้องโดยใช้กล้อง
ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด มีดังนี้ ยังคงมีอาการปวดท้องอยู่หลังจากได้รักษาโดยการให้ยาแก้ปวดหรือยาฮอร์โมนแล้ว มีข้อห้ามในการใช้ยาต่าง ๆ, ต้องการชิ้นเนื้อในการช่วยยืนยันการวินิจฉัย เพราะบางครั้งรอยโรคอาจจะก้ำกึ่งกับพยาธิ สภาพอื่นๆได้ หรือในกลุ่มที่ยังไม่สามารถตัดโรคมะเร็งของรังไข่ออกได้, มีการอุดตันของลำไส้ และระบบทางเดิน ปัสสาวะ เช่น รอยโรคมีการบีบรัดลำไส้หรือบีบรัดท่อไต ทำให้ท่อไตบวม หากทิ้งไว้นาน ๆ อาจจะทำให้ ไตข้างนั้นสูญเสีย การทำงานได้
โอกาสการกลับเป็นโรคนี้ซ้ำภายหลังการผ่าตัด
ในการผ่าตัดเอารอยโรคของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ออก เราทำได้เฉพาะกับรอยโรคที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเอารอยโรคออกไม่หมด ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาต่อภายหลังการผ่าตัดพบว่ามีโอกาสที่โรค จะกลับเป็นซ้ำได้ พบว่าภายใน 5 ปี มีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้ถึง 50%
การพัฒนาไปเป็นมะเร็งของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
มีโอกาสพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้ แต่ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ จึงไม่มีความจำเป็นต้องตรวจคัดกรอง และไม่มีความ จำเป็นต้องตัดรังไข่ทิ้ง โดยชนิดมะเร็งที่จะสามารถเกิดได้คือ มะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุผิว (Epithelial ovarian cancer) เช่น ชนิด Clear cell , ชนิด Endometrioid และ ชนิด Serous