7.การฟื้นตัวในระยะยาว: การดูแลสุขภาพตาหลัง ผ่าตัดทำเลสิค
แม้ว่าการ ผ่าตัด ทำเลสิค จะสามารถทำให้มองเห็นชัดเจนขึ้นภายในเวลาไม่กี่วันหลังผ่าตัด แต่การดูแลสุขภาพดวงตาในระยะยาวเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษาคงอยู่ได้ตลอดชีวิต และลดโอกาสที่สายตาจะถดถอยกลับไปเหมือนเดิม ผู้ที่ผ่านการทำเลสิคจึงควรใส่ใจทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิต การตรวจติดตามผล และการบำรุงดวงตาอย่างเหมาะสม

1. ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ
แม้จะมองเห็นชัดหลังทำเลสิคแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องตรวจตาอีกเลย คำแนะนำจากจักษุแพทย์คือ:
- ตรวจตา 1 เดือน, 3 เดือน และ 6 เดือนหลังผ่าตัด
- หลังจากนั้นควรตรวจทุกปี เพื่อประเมินสุขภาพของกระจกตาและจอประสาทตา
- หากมีปัญหาทางการมองเห็น ควรตรวจโดยไม่รอให้รุนแรง
การตรวจตาอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สามารถวินิจฉัยภาวะแทรกซ้อน เช่น ต้อกระจก, ต้อหิน หรือจอประสาทตาเสื่อม ได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม
2. รักษาความชุ่มชื้นของดวงตา
หลังทำเลสิค บางคนอาจมีอาการตาแห้งเรื้อรัง โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหน้าจอหรืออยู่ในห้องแอร์บ่อย ๆ
แนวทางดูแล:
- หยอดน้ำตาเทียมเป็นประจำ แม้ไม่มีอาการผิดปกติ
- ใช้น้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันเสีย สำหรับการใช้นาน ๆ
- พักสายตาทุก 20 นาที โดยใช้กฎ “20–20–20”: มองไกล 20 ฟุต นาน 20 วินาที ทุก 20 นาที
การรักษาดวงตาให้ชุ่มชื้นช่วยลดความเสี่ยงของตาแห้งเรื้อรัง และช่วยให้มองเห็นชัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
3. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อดวงตา
แม้เลสิคจะช่วยแก้ค่าสายตาได้ แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการเสื่อมของดวงตาได้ถ้าคุณยังคงพฤติกรรมที่ทำร้ายดวงตา เช่น:
- การจ้องจอเป็นเวลานานโดยไม่พักสายตา
- การสูบบุหรี่ (ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคตา)
- การใช้คอนแทคเลนส์ซ้ำแม้หลังทำเลสิค (กรณีบางคนยังต้องใส่บางครั้ง)
ทางที่ดี:
ควรปรับพฤติกรรม เช่น ติดฟิล์มกรองแสงบนหน้าจอ ปรับแสงให้เหมาะสม และใช้แว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกกลางแจ้ง
4. บำรุงสายตาด้วยโภชนาการที่เหมาะสม
อาหารมีบทบาทอย่างยิ่งต่อสุขภาพตาในระยะยาว การได้รับสารอาหารบางชนิดเป็นประจำช่วยชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา และลดความแห้งของดวงตา
สารอาหารที่ควรเน้น:
- วิตามิน A และเบต้าแคโรทีน: ช่วยปกป้องกระจกตา พบในแครอท ฟักทอง ตับ
- ลูทีนและซีแซนทีน: ลดความเสื่อมของจอประสาทตา พบในผักใบเขียว ไข่แดง
- วิตามิน C และ E: ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของเนื้อเยื่อดวงตา
- โอเมก้า-3: ลดภาวะตาแห้ง ช่วยเพิ่มน้ำตา พบในปลาทะเล ไข่ ปลาย่าง
การรับประทานอาหารหลากหลายครบหมู่ หรือเสริมวิตามินเฉพาะทางตามคำแนะนำของแพทย์ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ทำเลสิค
5. ระวังการเปลี่ยนแปลงของสายตาตามวัย
การทำเลสิคไม่สามารถป้องกันการเกิดสายตายาวตามวัย (Presbyopia) ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่ออายุเกิน 40 ปี แม้สายตาเดิมจะดีแค่ไหน
แนวทางรับมือ:
- อาจต้องใช้แว่นอ่านหนังสือสำหรับระยะใกล้
- มีเทคโนโลยี LASIK ชนิดเฉพาะ เช่น Monovision LASIK ที่ออกแบบให้ตาข้างหนึ่งมองไกล และอีกข้างมองใกล้ (ต้องมีการฝึกปรับตัว)
- พิจารณาใส่เลนส์ตาเทียมหากมีปัญหาอื่นร่วมด้วย เช่น ต้อกระจก
การวางแผนกับแพทย์ก่อนผ่าตัดสามารถช่วยลดผลกระทบจาก Presbyopia ได้อย่างมาก
6. การดูแลด้านอารมณ์และความคาดหวัง
การฟื้นตัวระยะยาวไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่ร่างกายเท่านั้น แต่รวมถึงสภาพจิตใจด้วย ผู้ป่วยบางคนอาจรู้สึกกังวลหากสายตาไม่คมชัดสมบูรณ์ภายในไม่กี่วัน ซึ่งในความเป็นจริง การฟื้นตัวเต็มที่อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงเดือน
คำแนะนำ:
- อย่าคาดหวังว่าสายตาจะ “สมบูรณ์แบบ” เหมือนกล้องถ่ายรูป
- เน้นเรื่อง “การใช้งานจริง” เป็นเกณฑ์วัดผล เช่น ขับรถ อ่านหนังสือ ทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริม
- ติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความมั่นใจ
7. ควรรู้: การตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อสายตาหลังเลสิค
ในหญิงที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ระดับฮอร์โมนในร่างกายอาจส่งผลต่อกระจกตา ทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงนั้น โดยมักเป็นการเปลี่ยนแปลงชั่วคราว
แนวทาง:
- ไม่แนะนำให้ทำเลสิคระหว่างตั้งครรภ์
- หากตั้งครรภ์หลังทำเลสิคแล้ว พบการเปลี่ยนแปลงสายตา ควรรอจนสิ้นสุดการให้นมก่อนตรวจซ้ำ
8. การใช้ชีวิตอย่างมีสติ: กุญแจสู่ผลลัพธ์ระยะยาวที่ดี
ดวงตาหลังทำเลสิคเปรียบเสมือน “สินทรัพย์สุขภาพ” ที่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่ฟื้นตัวจากการผ่าตัดเท่านั้น แต่ต้องดูแลแบบองค์รวมทั้งการนอนหลับ พฤติกรรม การใช้สายตา และสุขภาพโดยรวม
การฟื้นตัวในระยะยาวหลังการทำเลสิคไม่ใช่เรื่องที่จบลงเพียงแค่ “การเห็นชัด” ในวันรุ่งขึ้น แต่คือกระบวนการที่ต้องใช้ความเอาใจใส่ในพฤติกรรม การดูแลตนเอง และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างมีสติ เมื่อคุณใส่ใจดวงตาของคุณอย่างต่อเนื่อง ดวงตาก็จะตอบแทนคุณด้วยการมองเห็นที่ดีไปอีกหลายสิบปี
8.คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผ่าตัด LASIK
การตัดสินใจทำเลสิคมักมาพร้อมกับคำถามมากมาย ผู้ป่วยจำนวนมากรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ผลลัพธ์ และการฟื้นตัว ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเลสิคถือเป็นหนึ่งในการรักษาทางจักษุวิทยาที่มีประวัติความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงที่สุด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเข้าใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น บทนี้ได้รวบรวมคำถามยอดนิยม พร้อมคำตอบที่อิงจากข้อมูลทางการแพทย์และประสบการณ์ของจักษุแพทย์
❓ 1. การทำเลสิคเจ็บหรือไม่?
คำตอบ:
ไม่เจ็บครับ เพราะการทำเลสิคใช้ ยาชาหยอดตา ทำให้คุณไม่รู้สึกเจ็บตลอดกระบวนการ อาจรู้สึกกดหรือเครียดเล็กน้อยในช่วงเปิด Flap และอาจมีความรู้สึกแสบตา เคืองตา เล็กน้อยหลังการผ่าตัดใน 6–12 ชั่วโมงแรก ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติและจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
❓ 2. ต้องงดอาหารก่อนผ่าตัดไหม?
คำตอบ:
ไม่จำเป็นต้องงดอาหาร เพราะไม่ได้ใช้ยาสลบ แต่ควร หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มชูกำลัง ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากอาจทำให้กระสับกระส่ายระหว่างทำการรักษา
❓ 3. ทำเลสิคแล้วเห็นชัดทันทีเลยไหม?
คำตอบ:
ผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นชัดเจนขึ้น ในวันรุ่งขึ้น หลังการผ่าตัด และจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 3–7 วัน แต่คุณภาพการมองเห็นที่ดีที่สุดอาจใช้เวลาปรับตัว ประมาณ 1–3 เดือน
❓ 4. สามารถทำเลสิคได้กี่ครั้ง?
คำตอบ:
โดยทั่วไปการทำเลสิคจะทำ เพียงครั้งเดียว และให้ผลระยะยาว แต่ในบางกรณีหากสายตาไม่เสถียร หรือมีภาวะสายตาถดถอยภายหลัง แพทย์อาจพิจารณาให้ทำ LASIK เพิ่มเติม (enhancement) ได้ หากเนื้อกระจกตายังเหลือเพียงพอ
❓ 5. มีโอกาสตาบอดจากการทำเลสิคหรือไม่?
คำตอบ:
แทบเป็นไปไม่ได้ หากทำกับจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้เทคโนโลยีมาตรฐาน ความเสี่ยงของการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรจากการทำเลสิคมีโอกาสน้อยกว่า 1 ใน 10,000 ราย
❓ 6. ต้องลางานกี่วันหลังทำเลสิค?
คำตอบ:
ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 1–2 วัน หลังผ่าตัด หากงานไม่ใช้สายตาหนัก เช่น งานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือกลางแจ้ง แนะนำให้ลางานอย่างน้อย 3 วันเพื่อให้ดวงตาได้พักอย่างเต็มที่
❓ 7. ควรอายุเท่าไรถึงจะทำเลสิคได้?
คำตอบ:
ต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปีขึ้นไป และควรมีค่าสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำและยั่งยืน
❓ 8. หลังทำเลสิคแล้วจะเป็นต้อกระจกไหม?
คำตอบ:
การทำเลสิค ไม่เพิ่มความเสี่ยงของต้อกระจก ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามวัยตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หากมีการผ่าตัดต้อกระจกในอนาคต แพทย์ต้องทราบว่าคุณเคยทำเลสิคเพื่อคำนวณค่าของเลนส์ตาเทียมให้ถูกต้อง
❓ 9. ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรทำเลสิคได้ไหม?
คำตอบ:
ไม่แนะนำ ให้ทำในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพราะฮอร์โมนสามารถเปลี่ยนรูปร่างกระจกตาและค่าสายตาได้ชั่วคราว ควรรอให้สภาพร่างกายกลับมาเป็นปกติก่อน
❓ 10. เลสิคช่วยแก้ปัญหาสายตายาวตามวัยได้หรือไม่?
คำตอบ:
ไม่ได้โดยตรง เพราะเลสิคเน้นแก้ไขสายตาสั้น ยาว หรือเอียงจากรูปร่างกระจกตา แต่สายตายาวตามวัย (Presbyopia) เกิดจากการเสื่อมของกล้ามเนื้อตาและเลนส์ธรรมชาติ อาจต้องใส่แว่นอ่านหนังสือ หรือใช้เทคนิค Monovision LASIK แทน
❓ 11. ถ้ามีสายตาเอียงสูงมาก ทำเลสิคได้ไหม?
คำตอบ:
สามารถทำได้ในบางกรณี แต่ต้องตรวจความหนาและความโค้งของกระจกตาก่อน หากพบว่ากระจกตาบางเกินไป อาจแนะนำให้ใช้วิธีอื่นแทน เช่น PRK หรือใส่เลนส์เสริม (ICL)
❓ 12. ทำเลสิค ในต่างประเทศกับในไทย ต่างกันไหม?
คำตอบ:
มาตรฐานการทำเลสิคในประเทศไทยโดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ใช้เครื่องมือทันสมัยระดับโลก และแพทย์ผ่านการอบรมจากต่างประเทศ ความแตกต่างอยู่ที่ ค่าใช้จ่ายและประสบการณ์ส่วนบุคคลมากกว่า
❓ 13. ถ้าทำงานเกี่ยวกับสายตา เช่น ทหารหรือนักบิน ทำเลสิค ได้ไหม?
คำตอบ:
สามารถทำได้ แต่ต้องตรวจสอบข้อกำหนดเฉพาะของแต่ละหน่วยงาน เพราะบางอาชีพยังมีข้อกำหนดด้านการมองเห็นและประวัติการผ่าตัดดวงตาโดยตรง ควรขอใบรับรองจากแพทย์เฉพาะทางประกอบ
❓ 14. ถ้ามีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือภูมิแพ้ สามารถทำเลสิคได้ไหม?
คำตอบ:
ทำได้ หากควบคุมโรคได้ดี แต่ต้องได้รับการประเมินโดยจักษุแพทย์ร่วมกับแพทย์ผู้ดูแลโรคประจำตัว เช่น ควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีในผู้ป่วยเบาหวาน เพราะแผลอาจหายช้ากว่าคนทั่วไป
❓ 15. ทำไมบางคนทำเลสิคแล้วต้องกลับมาใส่แว่นอีก?
คำตอบ:
อาจเกิดจาก:
- ค่าสายตายังไม่คงที่ก่อนผ่าตัด
- ภาวะสายตาถดถอยตามอายุ
- มีโรคตาอื่นแฝงอยู่ เช่น ตาแห้งเรื้อรัง หรือจอประสาทตาเสื่อม
โดยทั่วไป หากมีการดูแลหลังผ่าตัดที่ดี และตรวจวัดอย่างแม่นยำก่อนผ่าตัด โอกาสต้องกลับมาใส่แว่นจะน้อยมาก
บทนี้ครอบคลุมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำเลสิค และช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอน ความคาดหวัง และการดูแลตนเองได้ดียิ่งขึ้น หากยังมีคำถามอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถปรึกษาจักษุแพทย์เฉพาะทางเพื่อการตัดสินใจอย่างรอบด้าน
9.ใครบ้างที่เหมาะสมกับการผ่าตัดเลสิค
การผ่าตัดเลสิค (LASIK) ไม่ใช่การรักษาที่เหมาะกับทุกคน แม้จะเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการแก้ไขสายตาสั้น ยาว หรือเอียง แต่ก็มีเงื่อนไขเฉพาะทางการแพทย์และสภาพร่างกายที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษาอย่างถาวรด้วยเลเซอร์
บทนี้จะช่วยให้คุณประเมินได้ว่าคุณคือผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการผ่าตัดเลสิคหรือไม่ โดยอิงตามเกณฑ์ทางการแพทย์ ค่ามาตรฐาน และข้อแนะนำจากจักษุแพทย์
1. ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และค่าสายตาคงที่
อายุเป็นเกณฑ์แรกที่ใช้คัดกรองผู้มีสิทธิ์ทำเลสิค โดยทั่วไปแล้ว:
- ต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปี ขึ้นไป
- ค่าสายตา (ค่าสั้น, ยาว หรือเอียง) ต้องคงที่อย่างน้อย 1 ปี
(หากค่าสายตายังเปลี่ยนบ่อย อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ยั่งยืน)
วัยที่เหมาะที่สุดในการทำเลสิคคือ ช่วงอายุ 20–40 ปี ซึ่งดวงตายังแข็งแรงดี และยังไม่มีภาวะสายตายาวตามวัย
2. ผู้ที่มีค่าสายตาอยู่ในช่วงที่เลสิคสามารถแก้ไขได้
แม้ LASIK จะครอบคลุมค่าสายตาหลากหลายประเภท แต่ก็มีขีดจำกัดอยู่บ้าง
ประเภทสายตา | ช่วงค่าสายตาที่ทำเลสิคได้ |
สายตาสั้น (Myopia) | ประมาณ -1.00 ถึง -12.00 D |
สายตายาว (Hyperopia) | ประมาณ +1.00 ถึง +6.00 D |
สายตาเอียง (Astigmatism) | ไม่เกิน 6.00 D |
กรณีค่าสายตาสูงเกินกว่านี้ หรือสายตาไม่สมดุล อาจพิจารณาทำ PRK, ICL, RLE หรือเทคนิคอื่นแทน
3. กระจกตาต้องมีความหนาเพียงพอ
เพราะ LASIK ใช้เลเซอร์ในการปรับความโค้งของกระจกตา ถ้ากระจกตาบางเกินไปอาจทำให้เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น กระจกตาย้วย (ectasia)
- โดยทั่วไปต้องมีความหนากระจกตา อย่างน้อย 480–500 ไมครอน
- แพทย์จะใช้เครื่องวัดความหนากระจกตา (pachymetry) เพื่อตรวจเช็กก่อนรับการผ่าตัด
กรณีที่กระจกตาบางแต่ยังต้องการผ่าตัด อาจแนะนำให้ทำ PRK แทนซึ่งไม่ต้องเปิด Flap
4. ไม่มีโรคหรือภาวะที่เป็นข้อห้ามในการทำเลสิค
มีหลายโรคที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของการทำเลสิค ซึ่งหากตรวจพบ แพทย์อาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงการผ่าตัดชนิดนี้
โรคหรือภาวะที่เป็นข้อห้าม:
- กระจกตาย้วย (Keratoconus) หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็น
- โรคตาแห้งเรื้อรังระดับรุนแรง
- โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือมีพังผืดที่จอประสาทตา
- โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง เช่น SLE, RA
- โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ส่งผลต่อการสมานแผล
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร (ควรรอให้ฮอร์โมนกลับสู่สมดุลก่อน)
5. ไม่มีพฤติกรรมหรือวิถีชีวิตที่เสี่ยงกระทบผลลัพธ์
แม้จะมีคุณสมบัติทางกายภาพครบถ้วน แต่พฤติกรรมบางอย่างก็อาจส่งผลต่อความสำเร็จของเลสิค เช่น:
- คนที่ขยี้ตาบ่อย (เช่น ผู้มีภูมิแพ้ตา)
- คนที่ทำงานกลางแจ้ง เจอฝุ่นตลอดเวลา
- นักมวย, นักกีฬาเทควันโด, MMA ซึ่งเสี่ยงต่อการกระแทกตาซ้ำ
ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้เลือกวิธีรักษาที่ไม่มีการเปิด Flap เช่น PRK หรือ ICL แทน
6. ผู้ที่มีความคาดหวังที่ “เป็นจริง”
การทำเลสิคช่วยปรับสายตาให้มองเห็นชัดเจนได้อย่างมาก แต่ไม่ใช่ทุกกรณีที่จะเห็นคมชัดเหมือนกล้องระดับมืออาชีพ จึงควรเข้าใจข้อเท็จจริงว่า:
- คุณอาจยังต้องใช้แว่นอ่านหนังสือเมื่ออายุมากขึ้น
- บางคนอาจยังมี glare หรือแสงกระจายตอนกลางคืนอยู่บ้าง
- ค่าสายตาอาจเปลี่ยนเล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป
ผู้ที่คาดหวังว่าจะ “ไม่มีปัญหาสายตาตลอดชีวิต” อาจรู้สึกผิดหวังได้ จึงควรมีจิตใจที่ยืดหยุ่นและเข้าใจธรรมชาติของร่างกาย
7. กลุ่มอาชีพที่นิยมทำเลสิค
มีหลายอาชีพที่ผู้คนเลือกทำเลสิคเพื่อความคล่องตัวในการทำงาน เช่น:
- นักกีฬา / นักว่ายน้ำ / นักวิ่งมาราธอน – ไม่สะดวกใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์
- พนักงานขับรถ / นักบิน / ช่างกล้อง – ต้องการความแม่นยำในการมองเห็น
- พนักงานออฟฟิศ – ตาแห้งจากการใส่คอนแทคเลนส์นาน ๆ
- บุคลากรการแพทย์ – ต้องการความคล่องตัวและความสะอาดในการทำหัตถการ
- เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัย / ตำรวจ / ทหาร – ข้อกำหนดเกี่ยวกับสายตาในหน้าที่
8. กลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์เป็นพิเศษก่อนตัดสินใจ
- คนที่มี ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือ OCD
เพราะอาจมีความคาดหวังสูงเกินจริงต่อผลลัพธ์ - คนที่เคยผ่านการ ผ่าตัดดวงตาอื่น ๆ เช่น ต้อกระจกมาก่อน
- คนที่ สายตาเปลี่ยนบ่อย โดยไม่มีสาเหตุแน่ชัด
สรุป: เลสิคเหมาะกับคุณหรือไม่?
LASIK เป็นการรักษาที่ดีมาก หากคุณเป็นคนที่มี:
✅ อายุ 18 ปีขึ้นไป
✅ ค่าสายตาคงที่
✅ ไม่มีโรคทางตาหรือโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้าม
✅ กระจกตาหนาเพียงพอ
✅ มีความคาดหวังในผลลัพธ์อย่างสมเหตุสมผล
การตรวจวัดและประเมินโดยจักษุแพทย์เฉพาะทางเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการตัดสินใจ หากคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จจากการทำเลสิคก็ย่อมมีสูงมาก
10.คำแนะนำจากจักษุแพทย์: สิ่งที่ควรคิดก่อนตัดสินใจทำ LASIK
การตัดสินใจทำเลสิค ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะแม้จะเป็นการผ่าตัดเล็ก ไม่มีบาดแผลภายนอก และฟื้นตัวเร็ว แต่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกระจกตาอย่างถาวร จักษุแพทย์ทั่วโลกจึงแนะนำให้ผู้ป่วย เข้าใจตัวเอง เข้าใจขั้นตอน และเข้าใจความคาดหวัง ก่อนจะเข้ารับการรักษา
บทนี้จะถ่ายทอดคำแนะนำสำคัญจากมุมมองของจักษุแพทย์ เพื่อให้คุณตัดสินใจด้วยความมั่นใจและข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุด
1. อย่าคิดว่า LASIK เป็นการรักษาแบบ “จบแล้วจบเลย”
แม้การผ่าตัดเลสิคจะใช้เวลาเพียง 15–30 นาที แต่ผลลัพธ์ของมันอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต จึงต้องเข้าใจว่า:
- เป็นการปรับรูปร่างกระจกตาอย่างถาวร
- แม้ผลลัพธ์ดีเยี่ยม แต่ ยังต้องดูแลหลังผ่าตัด อย่างสม่ำเสมอ
- ต้องยอมรับความเป็นไปได้ของการเกิดภาวะเช่น glare, ตาแห้ง หรือการเปลี่ยนแปลงของสายตาเมื่ออายุมากขึ้น
✏️ ข้อคิดจากแพทย์: “ทำเลสิค ไม่ใช่เวทมนตร์ แต่มันคือเทคโนโลยีที่ต้องการการมีวินัยร่วมด้วย”
2. พิจารณาสุขภาพตาและโรคประจำตัวอย่างละเอียด
จักษุแพทย์มักพบว่าผู้ป่วยบางคนไม่รู้ว่าตนมีโรคตาแฝง เช่น กระจกตาย้วย หรือเบาหวานที่ควบคุมไม่ดี ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผลลัพธ์เลสิคในระยะยาว
สิ่งที่แพทย์จะแนะนำให้ตรวจ ได้แก่:
- ความหนาและความโค้งของกระจกตา (Corneal Mapping)
- สภาพจอประสาทตา (Retinal Scan)
- ปริมาณการหลั่งน้ำตา (Tear Production Test)
- ประวัติการแพ้ยา, การใช้ยา, และโรคประจำตัว
หากมีความเสี่ยงแม้เพียงเล็กน้อย แพทย์ที่มีจรรยาบรรณจะไม่แนะนำให้ทำ
3. ปรึกษาแพทย์ให้ตรงประเด็น ถามคำถามให้ละเอียด
อย่าอายที่จะถามคำถาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมตอบเสมอ หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ:
- วิธีการสร้าง Flap ที่ใช้
- ความแตกต่างของเลเซอร์แต่ละประเภท
- ความคาดหวังต่อการมองเห็น
- ความปลอดภัยในการเดินทาง, ว่ายน้ำ, ใส่คอนแทคเลนส์หลังผ่าตัด
จงเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ให้เวลากับการอธิบาย ไม่ใช่เพียงแค่ขายแพ็กเกจ
4. พิจารณาทั้งข้อดีและข้อจำกัด
✏️ “การรู้เฉพาะข้อดี คือการตัดสินใจด้วยความลำเอียง” — จักษุแพทย์
แม้เลสิคจะให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก แต่ควรรู้ด้วยว่า:
ข้อดี | ข้อจำกัด |
เห็นชัดไม่ต้องพึ่งแว่น | ไม่ป้องกันสายตายาวตามวัย |
ฟื้นตัวเร็วใน 1–2 วัน | ตาอาจแห้งนานหลายเดือน |
ปลอดภัยมาก | มีความเสี่ยง 1–3% เช่น glare |
ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว | มีค่าใช้จ่ายสูงในระยะสั้น |
5. ตรวจสอบจรรยาบรรณและประสบการณ์ของผู้ทำการรักษา
จักษุแพทย์ที่ดีจะ:
- ไม่กดดันให้ผ่าตัดทันที
- ให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน
- มีประสบการณ์ด้าน refractive surgery อย่างแท้จริง
- ใช้เครื่องมือมาตรฐานระดับสากล
คุณสามารถตรวจสอบประวัติการอบรมของแพทย์ได้จากเว็บไซต์ของโรงพยาบาล หรือสอบถามโดยตรง
6. เตรียมใจให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
หลังทำเลสิค การใช้ชีวิตจะเปลี่ยนไป เช่น:
- ไม่ต้องหาแว่นเมื่อตื่นนอน
- มองเห็นใต้น้ำชัดขึ้น
- สามารถใส่แว่นกันแดดแฟชั่นได้โดยไม่ต้องมีเลนส์สายตา
- อาจต้องปรับตัวในช่วงแรกกับอาการแสบตา ตาแห้ง หรือ glare
✏️ “ชีวิตหลังเลสิคไม่ใช่แค่เรื่องสายตา แต่คือเรื่องความมั่นใจในทุกกิจกรรม”
7. เปรียบเทียบ LASIK กับทางเลือกอื่นอย่างรอบคอบ
มีทางเลือกอื่นในการแก้ไขสายตา เช่น:
- PRK – เหมาะกับคนที่กระจกตาบาง
- ICL – ใส่เลนส์เสริม เหมาะกับสายตาสั้นหรือเอียงมาก
- Refractive Lens Exchange (RLE) – เปลี่ยนเลนส์ธรรมชาติ เหมาะกับคนอายุเกิน 45 ปี
บางกรณี LASIK อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งแพทย์จะช่วยแนะนำวิธีที่เหมาะกับดวงตาของคุณ
8. อย่าตัดสินใจเพียงเพราะโปรโมชั่นหรือราคาถูก
ราคาที่แตกต่างกันมากอาจสะท้อนถึง:
- ประสบการณ์ของแพทย์
- เครื่องมือที่ใช้ (รุ่นใหม่หรือเก่า)
- คุณภาพของการติดตามผล
✏️ “คุณภาพสายตาในอีก 10 ปีข้างหน้า สำคัญกว่าราคาที่จ่ายวันนี้”
สรุป: คำแนะนำสุดท้ายจากจักษุแพทย์
หากคุณกำลังพิจารณาทำ LASIK ให้ตั้งคำถามกับตัวเอง:
- ฉันมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่?
- ฉันเข้าใจผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นหรือยัง?
- ฉันพร้อมดูแลตัวเองหลังผ่าตัดหรือไม่?
- ฉันไว้ใจทีมแพทย์และคลินิกที่เลือกหรือไม่?
เมื่อคุณตอบ “ใช่” ทุกข้อ — การตัดสินใจทำเลสิคของคุณจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
@piyavatehospital ชวนหมอตาคุย EP8 ค่าสายตาเท่าไรทำ LASIK ได้ ?#โรงพยาบาลปิยะเวท #ศูนย์เลสิคโรงพยาบาลปิยะเวท #femtolasik #เลสิค #lasik #เลสิคหมอจตุพร ♬ เสียงต้นฉบับ – piyavate.hospital
11.เปรียบเทียบ LASIK กับทางเลือกอื่นในการแก้ปัญหาสายตา
แม้ LASIK จะเป็นวิธีแก้ปัญหาสายตาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการรักษาภาวะสายตาสั้น ยาว หรือเอียง ยังมีเทคนิคทางจักษุแพทย์อีกหลายวิธีที่สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ไม่เหมาะกับเลสิค หรือมีข้อจำกัดด้านกายภาพ เช่น กระจกตาบาง ค่าสายตาสูง หรืออายุมาก
ในบทนี้ เราจะเปรียบเทียบ LASIK กับทางเลือกอื่นที่แพทย์อาจแนะนำ โดยดูจากมิติที่สำคัญ ได้แก่ ความเหมาะสม ข้อดี ข้อเสีย ระยะเวลาฟื้นตัว และค่าใช้จ่าย
🟦 1. LASIK (Laser-Assisted In Situ Keratomileusis)
หลักการ: เปิดกระจกตาชั้นบน (Flap) แล้วใช้ Excimer Laser ปรับรูปร่างกระจกตาชั้นลึก เพื่อให้แสงโฟกัสได้ตรงจอประสาทตา
ข้อดี:
- ฟื้นตัวเร็ว (1–2 วัน)
- เจ็บน้อยมาก
- เห็นผลทันที
- เหมาะกับผู้ที่มีความหนากระจกตาปานกลางถึงมาก
ข้อจำกัด:
- ไม่เหมาะกับผู้ที่กระจกตาบาง
- ต้องระวังไม่ขยี้ตา เพราะมีการเปิด Flap
- มีความเสี่ยงเรื่อง glare และ dry eye เล็กน้อย
🟧 2. PRK (Photorefractive Keratectomy)
หลักการ: ขูดผิวกระจกตาชั้นบนออก แล้วใช้ Excimer Laser ยิงเลเซอร์โดยไม่สร้าง Flap
ข้อดี:
- เหมาะกับผู้ที่กระจกตาบาง
- ไม่มีการสร้าง Flap → ไม่มีความเสี่ยง Flap เคลื่อน
- เหมาะกับผู้เล่นกีฬา contact sports เช่น มวย, MMA
ข้อจำกัด:
- เจ็บหลังผ่าตัดมากกว่าเลสิค
- การมองเห็นชัดใช้เวลานานกว่า (ฟื้นตัว 5–7 วัน)
- อาจต้องใส่คอนแทคเลนส์ปิดแผลชั่วคราว
🟨 3. ICL (Implantable Collamer Lens)
หลักการ: ใส่เลนส์ชนิดพิเศษเข้าไปในลูกตา เหมือนการ “เสริมเลนส์” เพิ่มเติม โดยไม่ลบเนื้อเยื่อกระจกตา
ข้อดี:
- แก้ค่าสายตาสูงมากได้ (ถึง -18 D)
- เหมาะกับผู้ที่กระจกตาบางหรือรูปร่างไม่ปกติ
- เลนส์สามารถถอดเปลี่ยนได้ในอนาคต
ข้อจำกัด:
- ต้องผ่าตัดภายในลูกตา → มีความเสี่ยงติดเชื้อเล็กน้อย
- ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการทำเลสิค
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีช่องหน้าตาแคบ (จำเป็นต้องตรวจด้วย UBM ก่อน)
🟩 4. RLE (Refractive Lens Exchange)
หลักการ: เปลี่ยนเลนส์แก้วตาธรรมชาติของผู้ป่วยด้วยเลนส์เทียม เหมือนการผ่าตัดต้อกระจกล่วงหน้า
ข้อดี:
- เหมาะกับผู้มีอายุเกิน 45 ปี ที่มีภาวะสายตายาวตามวัย
- ไม่ต้องกลับมาทำ LASIK หรือใส่แว่นอีกในอนาคต
- ไม่กระทบกระจกตา
ข้อจำกัด:
- เป็นการผ่าตัดภายในลูกตา → ความเสี่ยงสูงกว่าเลสิค
- ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าประมาณ 1–2 สัปดาห์
- ราคาสูง และต้องอาศัยประสบการณ์แพทย์มาก
🔷 เปรียบเทียบแบบตาราง
รายการเปรียบเทียบ | LASIK | PRK | ICL | RLE |
ความแม่นยำ | สูง | สูง | สูงมาก | สูงมาก |
ฟื้นตัวเร็ว | ✅ 1–2 วัน | ❌ 5–7 วัน | ✅ 3–5 วัน | ❌ 1–2 สัปดาห์ |
ความเจ็บหลังผ่าตัด | ต่ำ | ปานกลาง | ต่ำ | ปานกลาง |
เหมาะกับกระจกตาบาง | ❌ ไม่เหมาะ | ✅ เหมาะ | ✅ เหมาะ | ✅ เหมาะ |
เหมาะกับค่าสายตาสูง | ✅ สูงถึง -12 D | ✅ กลาง | ✅ สูงถึง -18 D | ✅ สูงถึง ±20 D |
มีการเปิดกระจกตา (Flap) | ✅ มี | ❌ ไม่มี | ❌ ไม่มี | ❌ ไม่มี |
ความเสี่ยงภายในลูกตา | ❌ ต่ำ | ❌ ต่ำ | ✅ ปานกลาง | ✅ สูง |
ค่าใช้จ่าย | ปานกลาง | ต่ำ | สูง | สูงมาก |
🔹 สรุปข้อแนะนำจากแพทย์
- หากคุณมีสายตาสั้นปานกลาง กระจกตาปกติ ไม่มีโรคตา → LASIK คือทางเลือกที่ดี
- หากคุณกระจกตาบาง เล่นกีฬาหนัก ขยี้ตาบ่อย → PRK ปลอดภัยกว่า
- หากคุณมีสายตาสั้นหรือเอียงมากกว่าค่าเฉลี่ย หรือกระจกตาไม่เหมาะสม → ICL คือตัวเลือกที่ทรงพลัง
- หากคุณอายุ 45 ปีขึ้นไป และต้องการแก้ปัญหาทั้งระยะใกล้-ไกล → RLE ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
🔻 ความสำคัญของการตรวจคัดกรอง
การเลือกวิธีผ่าตัดไม่ควรพิจารณาเพียงแต่ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะประเมินปัจจัยเฉพาะตัวของคุณ เช่น:
- ความโค้งกระจกตา
- ความหนากระจกตา
- ขนาดรูม่านตาในที่มืด
- ความชุ่มชื้นของตา
- ประวัติโรคตาในครอบครัว
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์เลือกวิธีที่เหมาะสมกับ “ดวงตาของคุณ” ไม่ใช่แค่เหมาะกับคนทั่วไป
บทสรุปในตอนนี้ก็คือ:
“ไม่มีวิธีใดดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มีวิธีที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณแน่นอน”
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกวิธีใด การปรึกษากับจักษุแพทย์เฉพาะทางคือกุญแจสู่การตัดสินใจอย่างถูกต้อง
12.สรุป: การทำ LASIK คือการลงทุนในสุขภาพตาอย่างยั่งยืน
การมองเห็นที่ชัดเจนไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย แต่ยังเป็นหัวใจของคุณภาพชีวิตในทุก ๆ ด้าน ทั้งการทำงาน การเดินทาง การออกกำลังกาย การอ่านหนังสือ หรือแม้แต่การมองหน้าคนที่คุณรักอย่างชัดเจน และ ทำเลสิค คือหนึ่งในวิธีที่ช่วยฟื้นคืนสิ่งเหล่านั้นได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป
หลังจากที่เราได้สำรวจรายละเอียดทุกแง่มุมของ LASIK ไปตลอดบทความนี้ ทั้งในเรื่องขั้นตอน ข้อดี ความเสี่ยง การดูแลระยะสั้นและยาว คำถามที่พบบ่อย และทางเลือกอื่น ๆ ถึงเวลาแล้วที่เราจะสรุปภาพรวม และตอบคำถามสำคัญว่า:
“LASIK คุ้มค่าและเหมาะกับคุณหรือไม่?”
🟢 1. LASIK เปลี่ยนวิถีชีวิตให้คล่องตัวขึ้นจริง
- ไม่ต้องห่วงว่าจะแตก แว่นจะหาย หรือคอนแทคเลนส์จะติดข้างในตา
- ตื่นเช้ามามองเห็นทันทีโดยไม่ต้องควานหาแว่น
- สามารถเล่นกีฬา ว่ายน้ำ หรือออกกำลังกายกลางแจ้งได้อย่างอิสระ
- เพิ่มความมั่นใจในบุคลิกภาพ
สำหรับคนจำนวนมาก สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้คือ “ความสุขรายวัน” ที่ได้กลับคืนมาอีกครั้งหลังการทำเลสิค
🟢 2. เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
แม้ ทำเลสิค จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาทต่อครั้ง แต่หากเทียบกับค่าใช้จ่ายรายปีของแว่นตา คอนแทคเลนส์ น้ำยาล้าง ค่าตรวจสายตา ฯลฯ จะพบว่า:
- ภายใน 5–10 ปี ทำเลสิค อาจคุ้มค่ากว่า
- ลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาว
- ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุหรือภาวะแทรกซ้อนจากการใช้คอนแทคเลนส์
✏️ “การมองเห็นที่ดีทุกวัน ไม่มีราคาใดเทียบได้”
🟢 3. เทคโนโลยีทันสมัย เพิ่มความแม่นยำและปลอดภัย
ทำเลสิค ในปัจจุบันไม่เหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน ด้วยเทคโนโลยีเช่น:
- Femtosecond Laser สำหรับสร้าง Flap แบบไร้ใบมีด
- Wavefront-guided treatment ปรับตามลักษณะตาเฉพาะบุคคล
- Eye-tracking system ตรวจจับการเคลื่อนไหวระหว่างยิงเลเซอร์
- เทคนิคการตรวจจอประสาทตาละเอียดระดับไมครอน
สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การรักษาแม่นยำขึ้น ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสสำเร็จของการผ่าตัด
🟢 4. มีข้อจำกัดที่ควรรู้และยอมรับ
LASIK ไม่ใช่ทางลัด ไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน จึงควร:
- ตรวจประเมินให้ละเอียด ก่อนผ่าตัด ทำเลสิค
- เข้าใจความคาดหวัง อย่างสมเหตุสมผล เช่น อาจต้องใส่แว่นอ่านหนังสือเมื่ออายุเพิ่มขึ้น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์ หลังการผ่าตัดอย่างเคร่งครัด
- ยอมรับความเสี่ยงเล็กน้อยที่อาจเกิดขึ้น เช่น glare, ตาแห้ง หรือค่าสายตาเปลี่ยนเล็กน้อยในอนาคต
🟢 5. เหมาะกับใคร?
จากข้อมูลตลอดทั้งบทความ LASIK เหมาะกับผู้ที่:
- มีอายุ 18–45 ปี
- ค่าสายตาคงที่
- ไม่มีโรคตาหรือโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้าม
- กระจกตามีความหนาเพียงพอ
- ต้องการความคล่องตัวในชีวิต
- พร้อมจะดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างเหมาะสม
หากคุณเข้าข่ายเหล่านี้ โอกาสที่คุณจะได้รับผลลัพธ์ยอดเยี่ยมจากการทำเลสิคก็สูงมาก
🟢 6. ทางเลือกมีหลายแบบ เลือกสิ่งที่เหมาะกับ “คุณ” ที่สุด
แม้ LASIK จะเป็นทางเลือกยอดนิยม แต่หากคุณไม่เหมาะสมกับมัน ยังมีทางเลือกอื่นที่น่าสนใจ เช่น:
- PRK สำหรับคนที่กระจกตาบางหรือเล่นกีฬากระแทก
- ICL สำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นหรือเอียงสูงมาก
- RLE สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาสายตาหลายระยะ
คำแนะนำจากแพทย์ คือกุญแจที่จะช่วยให้คุณไม่หลงทางในข้อมูล
🟢 7. การดูแลหลังผ่าตัดคือหัวใจของความสำเร็จ
ไม่ว่าคุณจะทำเลสิค หรือวิธีใดก็ตาม การดูแลหลังผ่าตัดคือหัวใจของความสำเร็จ:
- หยอดยาตามแพทย์สั่ง
- งดขยี้ตา
- หลีกเลี่ยงฝุ่น ควัน น้ำ
- ใส่แว่นกันแดด และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- ตรวจตามนัดทุกครั้ง แม้ไม่มีอาการผิดปกติ
ดวงตาคืออวัยวะที่ละเอียดอ่อนที่สุด หากดูแลไม่ดี แม้การรักษาจะสำเร็จแต่ผลลัพธ์อาจไม่ยั่งยืน
🟢 สาระสำคัญที่ควรจดจำ:
ประเด็น | ข้อสรุป |
LASIK คืออะไร? | การปรับรูปร่างกระจกตาด้วยเลเซอร์เพื่อแก้ปัญหาสายตา |
เหมาะกับใคร? | ผู้มีค่าสายตาคงที่ กระจกตาปกติ ไม่มีโรคตาแฝง |
มีความเสี่ยงหรือไม่? | มีบ้าง เช่น ตาแห้ง, glare, ค่าสายตาถดถอย แต่พบได้น้อย |
ต้องเตรียมตัวอย่างไร? | หยุดใช้คอนแทคเลนส์, ตรวจตา, งดแต่งหน้า, วางแผนพัก |
หลังผ่าตัดต้องดูแลอย่างไร? | หยอดยา, หลีกเลี่ยงแสง ฝุ่น, ใส่ eye shield, ตรวจตามนัด |
คุ้มค่าหรือไม่? | ในระยะยาว คุ้มค่าทั้งด้านคุณภาพชีวิตและต้นทุนรวม |
✨ บทส่งท้าย: ดวงตาของคุณ คุณดูแลได้
การผ่าตัดเลสิคอาจเป็นก้าวเล็ก ๆ ทางการแพทย์ แต่สำหรับชีวิตคุณแล้ว มันคือก้าวกระโดดในด้านคุณภาพชีวิตและอิสรภาพในการมองเห็น ขอเพียงคุณให้ความสำคัญกับข้อมูล ตรวจคัดกรองอย่างเหมาะสม และดูแลดวงตาหลังผ่าตัดอย่างจริงจัง
เพราะดวงตาคู่เดียวของคุณ คือสิ่งที่คุณต้องใช้ไปตลอดชีวิต