ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง
ศูนย์เฉพาะทางด้าน ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลปิยะเวท จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลผู้ป่วยที่มี โรคเรื้อรัง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและครบวงจร โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และคลอเลสเตอรอลสูง โรคเหล่านี้เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ชัดว่าโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตทั่วโลก ดังนั้นจึงสะท้อนให้เห็นว่า การตรวจสุขภาพหัวใจ และการตรวจติดตามด้านอายุรกรรมอย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในมิติการรักษา โรงพยาบาลปิยะเวท ให้ความสำคัญกับการผสานการดูแลของหลายสาขาวิชา โดยมี ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง เป็นด่านหน้าในการคัดกรองและประเมินผู้ป่วย ก่อนส่งต่อไปยัง ศูนย์หัวใจ หรือ ศูนย์ทางเดินอาหาร หรือ ศูนย์ไตเทียม ตามความจำเป็น นอกจากนี้การจัดบริการ ตรวจสุขภาพ ประจำปีที่ ตรวจสุขภาพ ยังถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยค้นหาความผิดปกติในระยะเริ่มต้นและลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน
สิ่งที่ทำให้ศูนย์นี้แตกต่างคือการดูแลแบบองค์รวม เน้นทั้งการรักษา โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคเรื้อรังอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการป้องกันและการติดตามผลในระยะยาว ผู้ป่วยจึงได้รับการดูแลทั้งจากมุมมองทางการแพทย์และการส่งเสริมสุขภาพในชีวิตประจำวัน
CTA: 👉 นัดหมาย ตรวจสุขภาพหัวใจ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่

ความสำคัญของโรคเรื้อรัง
โรคเรื้อรัง หรือ Chronic Diseases หมายถึงโรคที่ดำเนินไปเป็นระยะเวลานาน มักไม่หายขาด ต้องได้รับการดูแลและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรัง และโรคตับ
สาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังไม่ได้มาจากพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว หากแต่เกิดจาก พฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การบริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ด การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการขาดการออกกำลังกาย ปัจจัยเหล่านี้สะสมจนร่างกายเกิดความเสื่อมถอย และนำไปสู่โรคเรื้อรังในที่สุด
ความสำคัญของโรคเรื้อรัง ไม่ได้อยู่เพียงแค่จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบมหาศาลต่อสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้ป่วยต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาอย่างต่อเนื่อง และอาจสูญเสียประสิทธิภาพในการทำงาน
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โรคเรื้อรังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 70 ของการเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก โดยเฉพาะโรคหัวใจที่ถือว่าเป็น “นักฆ่าเงียบ” (Silent Killer) เพราะผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวจนกว่าจะสายเกินไป
→ WHO – Noncommunicable diseases
ภาระโรคเรื้อรังในประเทศไทยและทั่วโลก
โรคหัวใจและหลอดเลือด
ในประเทศไทย โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และคลอเลสเตอรอลสูง ซึ่งทั้งหมดเป็นโรคเรื้อรังที่สะสมมาตลอดชีวิต การเข้ารับบริการจาก ศูนย์หัวใจ และ ตรวจสุขภาพหัวใจ จึงเป็นหนทางสำคัญในการป้องกัน
เบาหวาน
ประเทศไทยมีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 4.8 ล้านคน และตัวเลขยังเพิ่มขึ้นทุกปี โรคเบาหวานไม่เพียงทำให้ผู้ป่วยต้องรับประทานยาและปรับวิถีชีวิตตลอดชีวิต แต่ยังนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคไต และโรคปลายประสาทเสื่อม
ความดันโลหิตสูง
เป็น “ภัยเงียบ” ที่ไม่แสดงอาการชัดเจน แต่หากไม่ได้รับการรักษา จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง การตรวจสุขภาพประจำปีที่ ศูนย์อายุรกรรม จึงมีบทบาทสำคัญในการค้นหาความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ
โรคไตเรื้อรัง
โรคไตเรื้อรังมีจำนวนผู้ป่วยสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย ผู้ป่วยหลายรายต้องเข้ารับการฟอกไตที่ ศูนย์ไตเทียม อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงสร้างภาระค่าใช้จ่าย แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว
โรคตับและทางเดินอาหาร
โรคตับแข็ง ไขมันพอกตับ และมะเร็งตับ เป็นโรคที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น เบาหวานและอ้วน การส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารที่ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร สามารถช่วยค้นหาความผิดปกติและวางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที
สรุป Section แรก
บทนำนี้แสดงให้เห็นว่า โรคเรื้อรังไม่ใช่เพียงปัญหาสุขภาพส่วนบุคคล แต่เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก การมีศูนย์เฉพาะทางที่บูรณาการการทำงานระหว่าง ศูนย์หัวใจ ศูนย์อายุรกรรม ศูนย์โรคทางเดินอาหาร ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ และศูนย์ไตเทียม ของโรงพยาบาลปิยะเวท จึงเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชนอย่างยั่งยืน
👉 CTA: หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือคลอเลสเตอรอลสูง ควรเข้ารับ ตรวจสุขภาพ หรือนัดหมายที่โรงพยาบาลปิยะเวท โทร. 1489
ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท
ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท ดูแลรักษาโรคหัวใจ ตรวจสุขภาพหัวใจ ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีมาตรฐานสากล ครอบคลุมการวินิจฉัย รักษา และฟื้นฟู
ความสำคัญของการดูแลหัวใจ
หัวใจคืออวัยวะที่ทำงานตลอดเวลาโดยไม่หยุดพัก หากหัวใจทำงานผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งหมด โรคหัวใจจึงถูกเรียกว่า “นักฆ่าเงียบ” เพราะในหลายกรณี ผู้ป่วยไม่มีอาการใด ๆ จนกว่าจะเกิดภาวะรุนแรง เช่น หัวใจวายเฉียบพลัน
ในประเทศไทย โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ อย่างต่อเนื่อง และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากข้อมูลของ สมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศไทย พบว่าคนไทยกว่า 5 แสนคนเป็นโรคหัวใจ และจำนวนนี้อาจเพิ่มขึ้นหากไม่มีการป้องกันที่ดี
โรคหัวใจที่พบบ่อย
โรคหัวใจแบ่งออกได้หลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีอาการและแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ : เกิดจากไขมันและคราบพลัคอุดตันในหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ
- ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ : หัวใจเต้นช้าหรือเร็วเกินไป บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการหน้ามืด หรือหมดสติ
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจ : เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่เต็มที่
- โรคลิ้นหัวใจ : ลิ้นหัวใจรั่วหรือแคบ ทำให้การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ
สาเหตุสำคัญของโรคเหล่านี้คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และคลอเลสเตอรอลสูง ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแลต่อเนื่อง
ปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ
- พฤติกรรมการกิน – อาหารที่มีไขมันสูงและโซเดียมมากเกินไป
- การขาดการออกกำลังกาย – ทำให้ร่างกายสะสมไขมันและความดันโลหิตสูงขึ้น
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ – เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดหลอดเลือดตีบ
- ความเครียดเรื้อรัง – กระตุ้นให้ร่างกายมีฮอร์โมนความเครียดสูง ส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ
- พันธุกรรม – หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ยิ่งต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ
การตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจ
ที่ ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท มีการตรวจหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการตรวจขั้นสูง ได้แก่
- Electrocardiogram (ECG) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อประเมินจังหวะการเต้น
- Echocardiogram (อัลตราซาวด์หัวใจ) ดูโครงสร้างและการบีบตัวของหัวใจ
- Stress Test ตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย
- CT Scan หลอดเลือดหัวใจ เพื่อดูการตีบตันของเส้นเลือด
- Holter Monitoring บันทึกจังหวะการเต้นของหัวใจต่อเนื่อง 24–48 ชั่วโมง
เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้แม่นยำมากขึ้น
โปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจ
โรงพยาบาลปิยะเวทจัดโปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจที่ครอบคลุม ร่วมกับ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ตั้งแต่ผู้ที่ต้องการตรวจเชิงป้องกันไปจนถึงผู้ที่มีอาการหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง
- โปรแกรมพื้นฐาน : ตรวจเลือด ความดัน คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- โปรแกรมมาตรฐาน : เพิ่มอัลตราซาวด์หัวใจและการตรวจสมรรถภาพ
- โปรแกรมขั้นสูง : รวม CT Scan หลอดเลือดหัวใจ และการปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
→ ศูนย์อายุรกรรม
→ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร
👉 CTA: นัดหมายตรวจหัวใจ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่
การรักษาโรคหัวใจ
นอกจากการตรวจวินิจฉัยแล้ว ศูนย์หัวใจยังมีบริการรักษาที่ครอบคลุมทุกระดับความรุนแรง
- การรักษาด้วยยา – ลดความดันโลหิต ควบคุมน้ำตาลและไขมัน
- การทำบอลลูนและใส่ขดลวด (Stent) – เปิดหลอดเลือดหัวใจที่ตีบ
- การผ่าตัดบายพาสหัวใจ (CABG) – สำหรับผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดตีบหลายตำแหน่ง
- การผ่าตัดลิ้นหัวใจ – แก้ไขภาวะลิ้นหัวใจรั่วหรือแคบ
การรักษาแต่ละแบบจะถูกออกแบบให้เหมาะกับสภาพร่างกายและภาวะของผู้ป่วยรายบุคคล
→ ศูนย์อายุรกรรม
→ ศูนย์ไตเทียม
การฟื้นฟูหัวใจ
การดูแลหลังการรักษาโรคหัวใจเป็นสิ่งสำคัญ ศูนย์หัวใจมีโปรแกรมฟื้นฟู เช่น
- กายภาพบำบัดหัวใจ
- โปรแกรมโภชนาการเฉพาะบุคคล
- การออกกำลังกายที่ปลอดภัยภายใต้การดูแลแพทย์
- การติดตามสุขภาพระยะยาว
โปรแกรมฟื้นฟูนี้ทำงานร่วมกับ ศูนย์อายุรกรรม และ ตรวจสุขภาพ เพื่อดูแลสุขภาพหัวใจแบบองค์รวม
จุดเด่นของศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท
- ทีมแพทย์หัวใจเฉพาะทางที่มีประสบการณ์
- เทคโนโลยีการตรวจและรักษาทันสมัย
- การเชื่อมโยงข้อมูลกับ ศูนย์อายุรกรรม, ศูนย์ไตเทียม และ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร
- บริการตรวจสุขภาพหัวใจที่ออกแบบได้ตามความเสี่ยงของผู้ป่วย
สรุป
ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท คือศูนย์ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพหัวใจแบบครบวงจร ตั้งแต่ การตรวจสุขภาพหัวใจ การรักษา ไปจนถึงการฟื้นฟู โดยทำงานประสานกับศูนย์เฉพาะทางอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุด
👉 CTA: สนใจตรวจสุขภาพหัวใจ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่

ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลปิยะเวท
ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลปิยะเวท ดูแลผู้ป่วย ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง พร้อมบริการตรวจสุขภาพและติดตามผลระยะยาวโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
บทบาทของศูนย์อายุรกรรม
ศูนย์อายุรกรรมถือเป็น “ด่านหน้า” ของการดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง เพราะโรคหลายชนิดไม่ได้เริ่มต้นจากความผิดปกติที่รุนแรงทันที หากแต่ค่อย ๆ สะสมจนกระทั่งเกิดผลกระทบต่อร่างกายทั้งหมด ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็น “สามโรคเรื้อรัง” ที่เชื่อมโยงกับโรคหัวใจและโรคไต
แพทย์อายุรกรรมมีหน้าที่สำคัญในการตรวจสุขภาพเบื้องต้น คัดกรองความผิดปกติ และส่งต่อผู้ป่วยไปยังศูนย์เฉพาะทาง เช่น ศูนย์หัวใจ หรือ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร เมื่อพบภาวะแทรกซ้อน
โรคเบาหวาน
เบาหวานคือโรคที่เกิดจากความผิดปกติในการใช้อินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง หากควบคุมไม่ได้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคไต และโรคปลายประสาท
- ประเทศไทยมีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 4.8 ล้านคน
- ผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นโรค เพราะอาการระยะแรกไม่รุนแรง
- การตรวจสุขภาพประจำปีที่ ศูนย์อายุรกรรม จึงมีความสำคัญยิ่ง
การรักษาเบาหวานไม่ใช่เพียงการรับประทานยา แต่รวมถึงการปรับพฤติกรรม เช่น อาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกาย และการควบคุมน้ำหนัก
→ ศูนย์ไตเทียม
→ WHO – Diabetes
ความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตสูงถูกเรียกว่า “ภัยเงียบ” เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการชัดเจน แต่หากปล่อยไว้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และไตเรื้อรัง
การตรวจสุขภาพเป็นประจำจึงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะที่ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ซึ่งมีแพทย์เฉพาะทางคอยติดตามและปรับการรักษาอย่างเหมาะสม
- ผู้ที่มีค่าความดันเกิน 140/90 มม.ปรอท ควรเข้ารับการรักษาทันที
- การรักษาอาจรวมถึงการใช้ยาและการปรับพฤติกรรม เช่น ลดเกลือ ออกกำลังกาย และเลิกบุหรี่
- หากไม่ควบคุม อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ต้องเข้ารับการรักษาที่ ศูนย์หัวใจ
ไขมันในเลือดสูง
ภาวะไขมันในเลือดสูง หรือ Dyslipidemia เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด การตรวจระดับไขมันในเลือดควรทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี หรือมีโรคประจำตัว
- ค่าคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) ควรต่ำกว่า 200 mg/dL
- ค่า LDL ควรต่ำกว่า 100 mg/dL สำหรับผู้ป่วยทั่วไป และต่ำกว่า 70 mg/dL สำหรับผู้ที่มีโรคหัวใจ
- การปรับอาหารและการออกกำลังกายเป็นปัจจัยหลักในการควบคุม
→ ตรวจสุขภาพ
→ ศูนย์หัวใจ
บริการตรวจสุขภาพประจำปี
ศูนย์อายุรกรรมมีบริการตรวจสุขภาพประจำปีที่ครอบคลุม ทั้งการตรวจเลือด การวัดความดัน การตรวจตับและไต รวมถึงการประเมินปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคล การตรวจสุขภาพไม่เพียงช่วยให้รู้สภาวะปัจจุบัน แต่ยังช่วยวางแผนชีวิตเพื่อป้องกันโรคในอนาคต
โปรแกรมตรวจสุขภาพประกอบด้วย
- การตรวจพื้นฐาน: ความดันโลหิต น้ำตาล และไขมัน
- การตรวจระดับกลาง: เพิ่มการตรวจตับ ไต และเอกซเรย์ทรวงอก
- การตรวจเชิงลึก: รวม CT Scan, ตรวจหัวใจ และการปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
→ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร
→ ศูนย์ไตเทียม
👉 CTA: นัดหมายตรวจสุขภาพ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่
การดูแลผู้ป่วยเรื้อรังแบบองค์รวม
ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมักไม่ได้มีเพียงโรคเดียว ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยเบาหวานจำนวนมากมีความดันโลหิตสูงและไขมันสูงร่วมด้วย ทำให้การดูแลต้องอาศัยการทำงานแบบสหสาขาวิชาชีพ ศูนย์อายุรกรรมจึงประสานการรักษากับ ศูนย์หัวใจ, ศูนย์ไตเทียม และ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน
จุดเด่นของศูนย์อายุรกรรม ปิยะเวท
- ทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง
- โปรแกรมตรวจสุขภาพที่หลากหลาย
- ระบบติดตามผู้ป่วยโรคเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง
- การเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์อื่น ๆ เช่น ศูนย์หัวใจ และ ศูนย์ไตเทียม
สรุป
ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลปิยะเวท ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังอย่างรอบด้าน ครอบคลุม ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การวินิจฉัย ไปจนถึงการรักษาและการติดตามผลต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
👉 CTA: สนใจตรวจสุขภาพประจำปี โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่
ศูนย์โรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลปิยะเวท
ศูนย์โรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลปิยะเวท ให้บริการตรวจและรักษาโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน โรคตับ ไขมันพอกตับ และส่องกล้องทางเดินอาหาร โดยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีทันสมัย
ความสำคัญของโรคทางเดินอาหาร
ระบบทางเดินอาหารเป็นหนึ่งในระบบสำคัญที่สุดของร่างกาย เพราะมีหน้าที่ในการย่อยและดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อชีวิต หากระบบนี้ทำงานผิดปกติ ไม่เพียงทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายท้อง แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม เช่น ภาวะขาดสารอาหาร โรคตับเรื้อรัง และมะเร็งทางเดินอาหารบางชนิด
ปัจจุบันโรคทางเดินอาหารกลายเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะ กรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหาร และไขมันพอกตับ ซึ่งสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา อาหารมันจัด เค็มจัด หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
โรคที่พบบ่อยในระบบทางเดินอาหาร
- โรคกรดไหลย้อน (GERD)
ผู้ป่วยจะมีอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว หรือไอเรื้อรัง โดยมักเกิดจากหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานผิดปกติ หากปล่อยไว้นานอาจทำให้หลอดอาหารอักเสบและเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหาร - โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
เกิดจากการติดเชื้อ Helicobacter pylori การใช้ยาแก้อักเสบติดต่อกัน หรือความเครียด อาการสำคัญคือปวดท้อง จุกแน่น และคลื่นไส้ - โรคตับและไขมันพอกตับ
ปัญหาสุขภาพที่มักสัมพันธ์กับโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและไขมันในเลือดสูง หากไม่ได้รับการรักษา อาจพัฒนาไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับได้ - โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD)
เช่น Crohn’s disease และ Ulcerative colitis ส่งผลให้ผู้ป่วยถ่ายเหลวเรื้อรัง น้ำหนักลด และอ่อนเพลีย
การตรวจวินิจฉัยโรคทางเดินอาหาร
ศูนย์โรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลปิยะเวท มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ
- Gastroscopy (ส่องกล้องกระเพาะอาหาร) : ตรวจหาความผิดปกติในกระเพาะและหลอดอาหาร
- Colonoscopy (ส่องกล้องลำไส้ใหญ่) : ค้นหาสาเหตุการถ่ายเป็นเลือด ตรวจหามะเร็งลำไส้ในระยะเริ่มต้น
- Ultrasound ช่องท้อง : ตรวจตับ ถุงน้ำดี และตับอ่อน
- FibroScan : ตรวจภาวะพังผืดในตับสำหรับผู้ที่มีโรคตับเรื้อรัง
การรักษาและแนวทางดูแล
โรคทางเดินอาหารแต่ละชนิดมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่การใช้ยา ปรับพฤติกรรม ไปจนถึงการผ่าตัดในบางกรณี
- โรคกรดไหลย้อน → ใช้ยาลดกรด ยาลดการสร้างกรด และการปรับพฤติกรรม เช่น หลีกเลี่ยงอาหารมันจัด นอนหัวสูง
- โรคตับและไขมันพอกตับ → ควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก และรักษาโรคร่วม เช่น เบาหวานและไขมันสูง ร่วมกับการตรวจติดตามที่ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง
- โรคกระเพาะอาหาร → ใช้ยาลดกรด ยาฆ่าเชื้อ H. pylori และหลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้อักเสบโดยไม่จำเป็น
- โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง → ใช้ยาควบคุมการอักเสบ การปรับอาหาร และบางกรณีอาจต้องผ่าตัด
โปรแกรมตรวจสุขภาพทางเดินอาหาร
โรงพยาบาลปิยะเวทได้ออกแบบโปรแกรมตรวจสุขภาพทางเดินอาหารเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือมีอาการผิดปกติ
- โปรแกรมพื้นฐาน : ตรวจสุขภาพทั่วไปและอัลตราซาวด์ช่องท้อง
- โปรแกรมมาตรฐาน : เพิ่มการส่องกล้องกระเพาะอาหาร
- โปรแกรมขั้นสูง : ส่องกล้องลำไส้ใหญ่และตรวจหาไวรัสตับอักเสบ
👉 CTA: นัดหมายส่องกล้อง โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่
จุดเด่นของศูนย์โรคทางเดินอาหาร ปิยะเวท
- ทีมแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินอาหารที่มีประสบการณ์สูง
- เครื่องมือทันสมัย เช่น ส่องกล้องความละเอียดสูง
- บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ตรวจ วินิจฉัย รักษา และติดตามผล
- การทำงานร่วมกับศูนย์อื่น ๆ เช่น ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง และ ศูนย์หัวใจ เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคร่วม
สรุป
ศูนย์โรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลปิยะเวท เป็นศูนย์ที่พร้อมดูแลผู้ป่วยโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน โรคตับ ไขมันพอกตับ และลำไส้อักเสบ ด้วยการตรวจที่ครอบคลุมและการรักษาที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง
👉 CTA: สนใจตรวจทางเดินอาหาร โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่
ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลปิยะเวท
ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลปิยะเวท ดูแลรักษาโรคนิ่ว โรคต่อมลูกหมาก การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) ด้วยเทคโนโลยีการตรวจและการผ่าตัดที่ทันสมัย พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทาง
ความสำคัญของโรคระบบทางเดินปัสสาวะ
ระบบทางเดินปัสสาวะเป็นระบบที่ช่วยขับของเสียและควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย หากเกิดความผิดปกติ ไม่เพียงสร้างความเจ็บปวดและความไม่สบาย แต่ยังส่งผลต่อการทำงานของไตและระบบอื่น ๆ ในร่างกายด้วย
โรคทางเดินปัสสาวะพบบ่อยในทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ในผู้ชายสูงอายุ มักพบปัญหาต่อมลูกหมากโต ขณะที่ผู้หญิงมักมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้โรคนิ่วยังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
→ ศูนย์ไตเทียม
→ ศูนย์อายุรกรรม
โรคที่พบบ่อยในระบบทางเดินปัสสาวะ
- โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
เกิดจากการตกผลึกของแร่ธาตุในปัสสาวะ จนกลายเป็นก้อนนิ่ว ผู้ป่วยมักมีอาการปวดเอว ปัสสาวะเป็นเลือด หรือปัสสาวะลำบาก - โรคต่อมลูกหมากโต (BPH)
มักพบในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป อาการได้แก่ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะสะดุด หรือปัสสาวะไม่สุด หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดการคั่งของปัสสาวะและไตเสื่อม - การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI)
พบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อาการได้แก่ แสบขัดเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย และปัสสาวะมีกลิ่น การรักษาต้องใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการปรับพฤติกรรม - มะเร็งกระเพาะปัสสาวะและมะเร็งไต
แม้จะไม่พบบ่อยเท่าโรคอื่น แต่จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น การรักษามีโอกาสได้ผลดีสูง
→ ตรวจสุขภาพ
→ ศูนย์หัวใจ
การตรวจวินิจฉัยโรคระบบทางเดินปัสสาวะ
ที่ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลปิยะเวท มีเทคโนโลยีการตรวจที่ครบถ้วนและแม่นยำ เช่น
- Ultrasound ช่องท้องและไต : ตรวจหานิ่ว ก้อน หรือความผิดปกติ
- CT Scan : ใช้กรณีต้องการความละเอียดสูงในการหานิ่วหรือก้อนเนื้อ
- Uroflowmetry : ตรวจการไหลของปัสสาวะ
- Cystoscopy (ส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ) : ใช้ตรวจหาความผิดปกติ เช่น เนื้องอกหรือการอักเสบ
การรักษาโรคระบบทางเดินปัสสาวะ
- การรักษานิ่ว
- นิ่วขนาดเล็ก → ใช้ยาและดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อขับออก
- นิ่วขนาดใหญ่ → ใช้วิธีสลายนิ่วด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ESWL) หรือผ่าตัดผ่านกล้อง
- การรักษาต่อมลูกหมากโต
- ระยะแรก → ใช้ยาเพื่อลดการอุดกั้น
- ระยะรุนแรง → การผ่าตัดผ่านกล้อง TURP ซึ่งมีแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว
- การรักษา UTI
- ให้ยาปฏิชีวนะตามเชื้อที่ตรวจพบ
- แนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมาก ๆ และรักษาความสะอาด
- การรักษามะเร็งทางเดินปัสสาวะ
- การผ่าตัดเอาเนื้องอกออก
- การให้ยาเคมีบำบัดหรือฉายแสงในกรณีที่ลุกลาม
→ ศูนย์ไตเทียม
→ ศูนย์อายุรกรรม
โปรแกรมตรวจสุขภาพทางเดินปัสสาวะ
ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลปิยะเวท มีโปรแกรมตรวจสุขภาพเฉพาะทางสำหรับระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อค้นหาความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ
- ตรวจปัสสาวะทั่วไป : ตรวจหาการติดเชื้อและโปรตีนในปัสสาวะ
- ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องและไต : ค้นหานิ่วหรือก้อนเนื้อ
- ตรวจต่อมลูกหมาก (PSA) : สำหรับผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป
- การส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ : หากมีอาการผิดปกติรุนแรงหรือเรื้อรัง
👉 CTA: นัดหมายตรวจทางเดินปัสสาวะ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่
จุดเด่นของศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ ปิยะเวท
- ทีมแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินปัสสาวะที่มีประสบการณ์สูง
- เครื่องมือทันสมัย เช่น เครื่องสลายนิ่วและการผ่าตัดผ่านกล้อง
- การดูแลผู้ป่วยอย่างครบวงจร รักษาและติดตามผลระยะยาว
- การประสานการรักษากับ ศูนย์ไตเทียม, ศูนย์อายุรกรรม และ ตรวจสุขภาพ เพื่อการดูแลโรคร่วม
สรุป
ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลปิยะเวท พร้อมให้บริการตรวจและรักษาโรคนิ่ว โรคต่อมลูกหมาก และการติดเชื้อ UTI ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัย
👉 CTA: สนใจตรวจทางเดินปัสสาวะ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่
ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลปิยะเวท
ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลปิยะเวท ให้บริการฟอกไตด้วยเครื่องมาตรฐานสากล ดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังอย่างครบวงจร โดยทีมแพทย์และพยาบาลเฉพาะทาง
ความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคไต
โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease: CKD) เป็นปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคไตจนเข้าสู่ระยะรุนแรง เพราะอาการในระยะแรกมักไม่ชัดเจน เช่น อ่อนเพลีย บวม และความดันโลหิตสูง เมื่อเข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง ร่างกายไม่สามารถขับของเสียออกได้ จำเป็นต้องเข้ารับการฟอกไตอย่างสม่ำเสมอ
ที่ ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลปิยะเวท ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างครบวงจร ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การวินิจฉัย ไปจนถึงการฟอกไตและติดตามผลอย่างใกล้ชิด
โรคไตเรื้อรังและปัจจัยเสี่ยง
โรคไตเรื้อรังมักเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังอื่น ๆ โดยเฉพาะ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ไตเสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง
- เบาหวาน : น้ำตาลในเลือดสูงทำลายเส้นเลือดฝอยในไต
- ความดันโลหิตสูง : ทำให้ไตทำงานหนักขึ้นและเสื่อมเร็วขึ้น
- โรคหัวใจและหลอดเลือด : ส่งผลต่อการทำงานของไตในระยะยาว
- การใช้ยาบางชนิด : เช่น ยาแก้อักเสบติดต่อกันเป็นเวลานาน
ดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงควรตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ โดยเฉพาะที่ ศูนย์อายุรกรรม ซึ่งสามารถตรวจคัดกรองและส่งต่อมายังศูนย์ไตเทียมได้ทันที
→ WHO – Chronic kidney disease
การวินิจฉัยโรคไต
ศูนย์ไตเทียมมีการตรวจหลากหลายรูปแบบ รวมกับ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง เพื่อประเมินการทำงานของไต ได้แก่
- การตรวจเลือด (Serum Creatinine, eGFR) เพื่อวัดประสิทธิภาพของไต
- การตรวจปัสสาวะ เพื่อหาความผิดปกติ เช่น โปรตีนในปัสสาวะ
- อัลตราซาวด์ไต เพื่อดูโครงสร้างและขนาดของไต
- CT Scan ไต กรณีที่ต้องการข้อมูลละเอียดเพิ่มเติม
ผลการตรวจเหล่านี้ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินระยะโรคไตและวางแผนการรักษาได้ตรงจุด
บริการฟอกไตที่ศูนย์ไตเทียม ปิยะเวท
ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย จำเป็นต้องได้รับการฟอกไตเพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย ศูนย์ไตเทียม ปิยะเวทให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
- Hemodialysis (การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม) : ใช้เครื่องฟอกเลือดคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล
- Peritoneal Dialysis (การล้างไตทางช่องท้อง) : สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการทำการล้างไตที่บ้าน โดยแพทย์จะให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
- บริการฉุกเฉิน : รองรับผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเฉียบพลัน
ทุกขั้นตอนดำเนินการภายใต้การดูแลของแพทย์โรคไตและพยาบาลเฉพาะทาง
การดูแลผู้ป่วยโรคไตแบบองค์รวม
ศูนย์ไตเทียมไม่ได้ให้บริการเพียงการฟอกไตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดูแลในทุกมิติ
- การให้คำแนะนำด้านโภชนาการ : ควบคุมปริมาณน้ำ เกลือ และโปรตีน
- การติดตามความดันโลหิต : เพราะผู้ป่วยโรคไตส่วนใหญ่มีความดันสูงร่วมด้วย
- การดูแลโรคร่วม : เช่น โรคหัวใจที่เชื่อมโยงกับการทำงานของไต โดยอาจส่งต่อผู้ป่วยไปยัง ศูนย์หัวใจ
- การตรวจสุขภาพต่อเนื่อง : เพื่อประเมินภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
โปรแกรมตรวจสุขภาพไต
เพื่อตรวจหาความผิดปกติในระยะเริ่มต้น ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลปิยะเวท มีโปรแกรมตรวจสุขภาพไตที่หลากหลาย
- ตรวจพื้นฐาน : ตรวจเลือดและปัสสาวะ
- ตรวจมาตรฐาน : เพิ่มการตรวจอัลตราซาวด์ไต
- ตรวจเชิงลึก : รวม CT Scan และการปรึกษาแพทย์โรคไตโดยตรง
👉 CTA: นัดหมายตรวจสุขภาพไต โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่
จุดเด่นของศูนย์ไตเทียม ปิยะเวท
- ทีมแพทย์และพยาบาลเฉพาะทางโรคไตที่มีประสบการณ์สูง
- เครื่องฟอกไตคุณภาพมาตรฐานสากล
- การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งโภชนาการและโรคร่วม
- การประสานงานกับศูนย์อื่น ๆ เช่น ศูนย์หัวใจ, ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง และ ตรวจสุขภาพ
สรุป
ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลปิยะเวท เป็นศูนย์ที่มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การวินิจฉัย การฟอกไต ไปจนถึงการดูแลโรคร่วมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาวที่สุด
👉 CTA: สนใจตรวจไตหรือฟอกไต โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่
จุดเด่นของ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ปิยะเวท
จุดเด่นของ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ปิยะเวท คือการดูแลโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน และโรคทางเดินอาหารอย่างครบวงจร โดยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีทันสมัย
ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลปิยะเวท ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแลระยะยาวอย่างมีคุณภาพ ความพิเศษไม่ได้อยู่ที่เพียงการรักษา แต่รวมถึง การป้องกัน การตรวจสุขภาพ และการติดตามผล ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ครบวงจร
จุดเด่นสำคัญมีดังนี้:
- การทำงานแบบสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary Team)
ศูนย์นี้รวมทีมแพทย์เฉพาะทางหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นแพทย์อายุรกรรม แพทย์หัวใจ แพทย์ระบบทางเดินอาหาร และแพทย์ไต ทีมแพทย์เหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย → ศูนย์หัวใจ
→ ศูนย์ไตเทียม - เทคโนโลยีการตรวจและรักษาที่ทันสมัย
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตรวจหัวใจ CT Scan การส่องกล้องทางเดินอาหาร หรือเครื่องฟอกไตมาตรฐานสากล ทุกอย่างล้วนถูกเลือกมาเพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาให้แม่นยำและปลอดภัยที่สุด k → ศูนย์โรคทางเดินอาหาร - โปรแกรมตรวจสุขภาพที่ครอบคลุม
โรงพยาบาลปิยะเวทมีแพ็กเกจตรวจสุขภาพที่หลากหลาย ตั้งแต่การตรวจพื้นฐานสำหรับประชาชนทั่วไป ไปจนถึงโปรแกรมเจาะลึกเฉพาะโรค เช่น ตรวจสุขภาพหัวใจ และการตรวจไตสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและความดัน - การติดตามผลและการดูแลต่อเนื่อง
ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต้องการการติดตามผลอย่างใกล้ชิด แพทย์และพยาบาลที่นี่จะประสานงานกับทุกศูนย์เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลครบวงจร เช่น ผู้ป่วยเบาหวานสามารถเข้าตรวจที่ ศูนย์อายุรกรรม และหากพบภาวะหัวใจผิดปกติ ก็จะถูกส่งต่อไปยัง ศูนย์หัวใจ ได้ทันที - มาตรฐานโรงพยาบาลสากล (JCI Accreditation)
ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรังโรงพยาบาลปิยะเวทได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับสากล ผู้ป่วยจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและคุณภาพการรักษาที่ได้มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลชั้นนำทั่วโลก
สรุปได้ว่า ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ปิยะเวท ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่รักษา แต่คือศูนย์กลางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งในด้านการรักษา การป้องกัน และการฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพ
👉 CTA: สนใจตรวจสุขภาพหรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่