ศูนย์เฉพาะทางด้าน ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลปิยะเวท

ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง

ศูนย์เฉพาะทางด้าน ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลปิยะเวท จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลผู้ป่วยที่มี โรคเรื้อรัง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและครบวงจร โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และคลอเลสเตอรอลสูง โรคเหล่านี้เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ชัดว่าโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตทั่วโลก ดังนั้นจึงสะท้อนให้เห็นว่า การตรวจสุขภาพหัวใจ และการตรวจติดตามด้านอายุรกรรมอย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในมิติการรักษา โรงพยาบาลปิยะเวท ให้ความสำคัญกับการผสานการดูแลของหลายสาขาวิชา โดยมี ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง เป็นด่านหน้าในการคัดกรองและประเมินผู้ป่วย ก่อนส่งต่อไปยัง ศูนย์หัวใจ หรือ ศูนย์ทางเดินอาหาร หรือ ศูนย์ไตเทียม ตามความจำเป็น นอกจากนี้การจัดบริการ ตรวจสุขภาพ ประจำปีที่ ตรวจสุขภาพ ยังถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยค้นหาความผิดปกติในระยะเริ่มต้นและลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน

สิ่งที่ทำให้ศูนย์นี้แตกต่างคือการดูแลแบบองค์รวม เน้นทั้งการรักษา โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคเรื้อรังอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการป้องกันและการติดตามผลในระยะยาว ผู้ป่วยจึงได้รับการดูแลทั้งจากมุมมองทางการแพทย์และการส่งเสริมสุขภาพในชีวิตประจำวัน

CTA: 👉 นัดหมาย ตรวจสุขภาพหัวใจ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่

ศูนย์หัวใจ ศูนย์ไตเทียม ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ตรวจสุขภาพ
ศูนย์หัวใจ ศูนย์ไตเทียม ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ตรวจสุขภาพ

ความสำคัญของโรคเรื้อรัง

โรคเรื้อรัง หรือ Chronic Diseases หมายถึงโรคที่ดำเนินไปเป็นระยะเวลานาน มักไม่หายขาด ต้องได้รับการดูแลและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรัง และโรคตับ

สาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังไม่ได้มาจากพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว หากแต่เกิดจาก พฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การบริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ด การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการขาดการออกกำลังกาย ปัจจัยเหล่านี้สะสมจนร่างกายเกิดความเสื่อมถอย และนำไปสู่โรคเรื้อรังในที่สุด

ความสำคัญของโรคเรื้อรัง ไม่ได้อยู่เพียงแค่จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบมหาศาลต่อสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้ป่วยต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการรักษาอย่างต่อเนื่อง และอาจสูญเสียประสิทธิภาพในการทำงาน

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โรคเรื้อรังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 70 ของการเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก โดยเฉพาะโรคหัวใจที่ถือว่าเป็น “นักฆ่าเงียบ” (Silent Killer) เพราะผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวจนกว่าจะสายเกินไป

WHO – Noncommunicable diseases


ภาระโรคเรื้อรังในประเทศไทยและทั่วโลก

โรคหัวใจและหลอดเลือด

ในประเทศไทย โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และคลอเลสเตอรอลสูง ซึ่งทั้งหมดเป็นโรคเรื้อรังที่สะสมมาตลอดชีวิต การเข้ารับบริการจาก ศูนย์หัวใจ และ ตรวจสุขภาพหัวใจ จึงเป็นหนทางสำคัญในการป้องกัน

เบาหวาน

ประเทศไทยมีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 4.8 ล้านคน และตัวเลขยังเพิ่มขึ้นทุกปี โรคเบาหวานไม่เพียงทำให้ผู้ป่วยต้องรับประทานยาและปรับวิถีชีวิตตลอดชีวิต แต่ยังนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคไต และโรคปลายประสาทเสื่อม

ศูนย์ไตเทียม

ความดันโลหิตสูง

เป็น “ภัยเงียบ” ที่ไม่แสดงอาการชัดเจน แต่หากไม่ได้รับการรักษา จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง การตรวจสุขภาพประจำปีที่ ศูนย์อายุรกรรม จึงมีบทบาทสำคัญในการค้นหาความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ

โรคไตเรื้อรัง

โรคไตเรื้อรังมีจำนวนผู้ป่วยสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย ผู้ป่วยหลายรายต้องเข้ารับการฟอกไตที่ ศูนย์ไตเทียม อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงสร้างภาระค่าใช้จ่าย แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว

โรคตับและทางเดินอาหาร

โรคตับแข็ง ไขมันพอกตับ และมะเร็งตับ เป็นโรคที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น เบาหวานและอ้วน การส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารที่ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร สามารถช่วยค้นหาความผิดปกติและวางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที


สรุป Section แรก

บทนำนี้แสดงให้เห็นว่า โรคเรื้อรังไม่ใช่เพียงปัญหาสุขภาพส่วนบุคคล แต่เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก การมีศูนย์เฉพาะทางที่บูรณาการการทำงานระหว่าง ศูนย์หัวใจ ศูนย์อายุรกรรม ศูนย์โรคทางเดินอาหาร ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ และศูนย์ไตเทียม ของโรงพยาบาลปิยะเวท จึงเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชนอย่างยั่งยืน

👉 CTA: หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือคลอเลสเตอรอลสูง ควรเข้ารับ ตรวจสุขภาพ หรือนัดหมายที่โรงพยาบาลปิยะเวท โทร. 1489

ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท


ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท ดูแลรักษาโรคหัวใจ ตรวจสุขภาพหัวใจ ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีมาตรฐานสากล ครอบคลุมการวินิจฉัย รักษา และฟื้นฟู


ความสำคัญของการดูแลหัวใจ

หัวใจคืออวัยวะที่ทำงานตลอดเวลาโดยไม่หยุดพัก หากหัวใจทำงานผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งหมด โรคหัวใจจึงถูกเรียกว่า “นักฆ่าเงียบ” เพราะในหลายกรณี ผู้ป่วยไม่มีอาการใด ๆ จนกว่าจะเกิดภาวะรุนแรง เช่น หัวใจวายเฉียบพลัน

ในประเทศไทย โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ อย่างต่อเนื่อง และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากข้อมูลของ สมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศไทย พบว่าคนไทยกว่า 5 แสนคนเป็นโรคหัวใจ และจำนวนนี้อาจเพิ่มขึ้นหากไม่มีการป้องกันที่ดี


โรคหัวใจที่พบบ่อย

โรคหัวใจแบ่งออกได้หลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีอาการและแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน

  • โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ : เกิดจากไขมันและคราบพลัคอุดตันในหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ
  • ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ : หัวใจเต้นช้าหรือเร็วเกินไป บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการหน้ามืด หรือหมดสติ
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจ : เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจ ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่เต็มที่
  • โรคลิ้นหัวใจ : ลิ้นหัวใจรั่วหรือแคบ ทำให้การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ

สาเหตุสำคัญของโรคเหล่านี้คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และคลอเลสเตอรอลสูง ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแลต่อเนื่อง

ศูนย์อายุรกรรม


ปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ

  1. พฤติกรรมการกิน – อาหารที่มีไขมันสูงและโซเดียมมากเกินไป
  2. การขาดการออกกำลังกาย – ทำให้ร่างกายสะสมไขมันและความดันโลหิตสูงขึ้น
  3. การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ – เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดหลอดเลือดตีบ
  4. ความเครียดเรื้อรัง – กระตุ้นให้ร่างกายมีฮอร์โมนความเครียดสูง ส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ
  5. พันธุกรรม – หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ยิ่งต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ

การตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจ

ที่ ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท มีการตรวจหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการตรวจขั้นสูง ได้แก่

  • Electrocardiogram (ECG) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อประเมินจังหวะการเต้น
  • Echocardiogram (อัลตราซาวด์หัวใจ) ดูโครงสร้างและการบีบตัวของหัวใจ
  • Stress Test ตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย
  • CT Scan หลอดเลือดหัวใจ เพื่อดูการตีบตันของเส้นเลือด
  • Holter Monitoring บันทึกจังหวะการเต้นของหัวใจต่อเนื่อง 24–48 ชั่วโมง

เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้แม่นยำมากขึ้น

ตรวจสุขภาพ
ศูนย์ไตเทียม


โปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจ

โรงพยาบาลปิยะเวทจัดโปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจที่ครอบคลุม ร่วมกับ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ตั้งแต่ผู้ที่ต้องการตรวจเชิงป้องกันไปจนถึงผู้ที่มีอาการหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง

  • โปรแกรมพื้นฐาน : ตรวจเลือด ความดัน คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
  • โปรแกรมมาตรฐาน : เพิ่มอัลตราซาวด์หัวใจและการตรวจสมรรถภาพ
  • โปรแกรมขั้นสูง : รวม CT Scan หลอดเลือดหัวใจ และการปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

ศูนย์อายุรกรรม
ศูนย์โรคทางเดินอาหาร

👉 CTA: นัดหมายตรวจหัวใจ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่


การรักษาโรคหัวใจ

นอกจากการตรวจวินิจฉัยแล้ว ศูนย์หัวใจยังมีบริการรักษาที่ครอบคลุมทุกระดับความรุนแรง

  • การรักษาด้วยยา – ลดความดันโลหิต ควบคุมน้ำตาลและไขมัน
  • การทำบอลลูนและใส่ขดลวด (Stent) – เปิดหลอดเลือดหัวใจที่ตีบ
  • การผ่าตัดบายพาสหัวใจ (CABG) – สำหรับผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดตีบหลายตำแหน่ง
  • การผ่าตัดลิ้นหัวใจ – แก้ไขภาวะลิ้นหัวใจรั่วหรือแคบ

การรักษาแต่ละแบบจะถูกออกแบบให้เหมาะกับสภาพร่างกายและภาวะของผู้ป่วยรายบุคคล

ศูนย์อายุรกรรม
ศูนย์ไตเทียม


การฟื้นฟูหัวใจ

การดูแลหลังการรักษาโรคหัวใจเป็นสิ่งสำคัญ ศูนย์หัวใจมีโปรแกรมฟื้นฟู เช่น

  • กายภาพบำบัดหัวใจ
  • โปรแกรมโภชนาการเฉพาะบุคคล
  • การออกกำลังกายที่ปลอดภัยภายใต้การดูแลแพทย์
  • การติดตามสุขภาพระยะยาว

โปรแกรมฟื้นฟูนี้ทำงานร่วมกับ ศูนย์อายุรกรรม และ ตรวจสุขภาพ เพื่อดูแลสุขภาพหัวใจแบบองค์รวม


จุดเด่นของศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท

  1. ทีมแพทย์หัวใจเฉพาะทางที่มีประสบการณ์
  2. เทคโนโลยีการตรวจและรักษาทันสมัย
  3. การเชื่อมโยงข้อมูลกับ ศูนย์อายุรกรรม, ศูนย์ไตเทียม และ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร
  4. บริการตรวจสุขภาพหัวใจที่ออกแบบได้ตามความเสี่ยงของผู้ป่วย

สรุป

ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลปิยะเวท คือศูนย์ที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพหัวใจแบบครบวงจร ตั้งแต่ การตรวจสุขภาพหัวใจ การรักษา ไปจนถึงการฟื้นฟู โดยทำงานประสานกับศูนย์เฉพาะทางอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

👉 CTA: สนใจตรวจสุขภาพหัวใจ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่

ศูนย์หัวใจ ศูนย์ไตเทียม ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ตรวจสุขภาพ
ศูนย์หัวใจ ศูนย์ไตเทียม ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ตรวจสุขภาพ

ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลปิยะเวท


ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลปิยะเวท ดูแลผู้ป่วย ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง พร้อมบริการตรวจสุขภาพและติดตามผลระยะยาวโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง


บทบาทของศูนย์อายุรกรรม

ศูนย์อายุรกรรมถือเป็น “ด่านหน้า” ของการดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง เพราะโรคหลายชนิดไม่ได้เริ่มต้นจากความผิดปกติที่รุนแรงทันที หากแต่ค่อย ๆ สะสมจนกระทั่งเกิดผลกระทบต่อร่างกายทั้งหมด ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็น “สามโรคเรื้อรัง” ที่เชื่อมโยงกับโรคหัวใจและโรคไต

แพทย์อายุรกรรมมีหน้าที่สำคัญในการตรวจสุขภาพเบื้องต้น คัดกรองความผิดปกติ และส่งต่อผู้ป่วยไปยังศูนย์เฉพาะทาง เช่น ศูนย์หัวใจ หรือ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร เมื่อพบภาวะแทรกซ้อน


โรคเบาหวาน

เบาหวานคือโรคที่เกิดจากความผิดปกติในการใช้อินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง หากควบคุมไม่ได้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคไต และโรคปลายประสาท

  • ประเทศไทยมีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 4.8 ล้านคน
  • ผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นโรค เพราะอาการระยะแรกไม่รุนแรง
  • การตรวจสุขภาพประจำปีที่ ศูนย์อายุรกรรม จึงมีความสำคัญยิ่ง

การรักษาเบาหวานไม่ใช่เพียงการรับประทานยา แต่รวมถึงการปรับพฤติกรรม เช่น อาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกาย และการควบคุมน้ำหนัก

ศูนย์ไตเทียม
WHO – Diabetes


ความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูงถูกเรียกว่า “ภัยเงียบ” เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการชัดเจน แต่หากปล่อยไว้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และไตเรื้อรัง

การตรวจสุขภาพเป็นประจำจึงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะที่ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ซึ่งมีแพทย์เฉพาะทางคอยติดตามและปรับการรักษาอย่างเหมาะสม

  • ผู้ที่มีค่าความดันเกิน 140/90 มม.ปรอท ควรเข้ารับการรักษาทันที
  • การรักษาอาจรวมถึงการใช้ยาและการปรับพฤติกรรม เช่น ลดเกลือ ออกกำลังกาย และเลิกบุหรี่
  • หากไม่ควบคุม อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ต้องเข้ารับการรักษาที่ ศูนย์หัวใจ

ไขมันในเลือดสูง

ภาวะไขมันในเลือดสูง หรือ Dyslipidemia เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด การตรวจระดับไขมันในเลือดควรทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี หรือมีโรคประจำตัว

  • ค่าคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) ควรต่ำกว่า 200 mg/dL
  • ค่า LDL ควรต่ำกว่า 100 mg/dL สำหรับผู้ป่วยทั่วไป และต่ำกว่า 70 mg/dL สำหรับผู้ที่มีโรคหัวใจ
  • การปรับอาหารและการออกกำลังกายเป็นปัจจัยหลักในการควบคุม

ตรวจสุขภาพ
ศูนย์หัวใจ


บริการตรวจสุขภาพประจำปี

ศูนย์อายุรกรรมมีบริการตรวจสุขภาพประจำปีที่ครอบคลุม ทั้งการตรวจเลือด การวัดความดัน การตรวจตับและไต รวมถึงการประเมินปัจจัยเสี่ยงส่วนบุคคล การตรวจสุขภาพไม่เพียงช่วยให้รู้สภาวะปัจจุบัน แต่ยังช่วยวางแผนชีวิตเพื่อป้องกันโรคในอนาคต

โปรแกรมตรวจสุขภาพประกอบด้วย

  • การตรวจพื้นฐาน: ความดันโลหิต น้ำตาล และไขมัน
  • การตรวจระดับกลาง: เพิ่มการตรวจตับ ไต และเอกซเรย์ทรวงอก
  • การตรวจเชิงลึก: รวม CT Scan, ตรวจหัวใจ และการปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

ศูนย์โรคทางเดินอาหาร
ศูนย์ไตเทียม

👉 CTA: นัดหมายตรวจสุขภาพ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่


การดูแลผู้ป่วยเรื้อรังแบบองค์รวม

ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมักไม่ได้มีเพียงโรคเดียว ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยเบาหวานจำนวนมากมีความดันโลหิตสูงและไขมันสูงร่วมด้วย ทำให้การดูแลต้องอาศัยการทำงานแบบสหสาขาวิชาชีพ ศูนย์อายุรกรรมจึงประสานการรักษากับ ศูนย์หัวใจ, ศูนย์ไตเทียม และ ศูนย์โรคทางเดินอาหาร เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน


จุดเด่นของศูนย์อายุรกรรม ปิยะเวท

  1. ทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง
  2. โปรแกรมตรวจสุขภาพที่หลากหลาย
  3. ระบบติดตามผู้ป่วยโรคเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง
  4. การเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์อื่น ๆ เช่น ศูนย์หัวใจ และ ศูนย์ไตเทียม

สรุป

ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลปิยะเวท ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังอย่างรอบด้าน ครอบคลุม ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การวินิจฉัย ไปจนถึงการรักษาและการติดตามผลต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ

👉 CTA: สนใจตรวจสุขภาพประจำปี โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่

ศูนย์โรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลปิยะเวท


ศูนย์โรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลปิยะเวท ให้บริการตรวจและรักษาโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน โรคตับ ไขมันพอกตับ และส่องกล้องทางเดินอาหาร โดยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีทันสมัย


ความสำคัญของโรคทางเดินอาหาร

ระบบทางเดินอาหารเป็นหนึ่งในระบบสำคัญที่สุดของร่างกาย เพราะมีหน้าที่ในการย่อยและดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อชีวิต หากระบบนี้ทำงานผิดปกติ ไม่เพียงทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายท้อง แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม เช่น ภาวะขาดสารอาหาร โรคตับเรื้อรัง และมะเร็งทางเดินอาหารบางชนิด

ปัจจุบันโรคทางเดินอาหารกลายเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะ กรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหาร และไขมันพอกตับ ซึ่งสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา อาหารมันจัด เค็มจัด หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

ศูนย์อายุรกรรม
ตรวจสุขภาพ


โรคที่พบบ่อยในระบบทางเดินอาหาร

  1. โรคกรดไหลย้อน (GERD)
    ผู้ป่วยจะมีอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว หรือไอเรื้อรัง โดยมักเกิดจากหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานผิดปกติ หากปล่อยไว้นานอาจทำให้หลอดอาหารอักเสบและเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหาร
  2. โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
    เกิดจากการติดเชื้อ Helicobacter pylori การใช้ยาแก้อักเสบติดต่อกัน หรือความเครียด อาการสำคัญคือปวดท้อง จุกแน่น และคลื่นไส้
  3. โรคตับและไขมันพอกตับ
    ปัญหาสุขภาพที่มักสัมพันธ์กับโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและไขมันในเลือดสูง หากไม่ได้รับการรักษา อาจพัฒนาไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับได้
  4. โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD)
    เช่น Crohn’s disease และ Ulcerative colitis ส่งผลให้ผู้ป่วยถ่ายเหลวเรื้อรัง น้ำหนักลด และอ่อนเพลีย

ศูนย์หัวใจ
ศูนย์ไตเทียม


การตรวจวินิจฉัยโรคทางเดินอาหาร

ศูนย์โรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลปิยะเวท มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ

  • Gastroscopy (ส่องกล้องกระเพาะอาหาร) : ตรวจหาความผิดปกติในกระเพาะและหลอดอาหาร
  • Colonoscopy (ส่องกล้องลำไส้ใหญ่) : ค้นหาสาเหตุการถ่ายเป็นเลือด ตรวจหามะเร็งลำไส้ในระยะเริ่มต้น
  • Ultrasound ช่องท้อง : ตรวจตับ ถุงน้ำดี และตับอ่อน
  • FibroScan : ตรวจภาวะพังผืดในตับสำหรับผู้ที่มีโรคตับเรื้อรัง

WHO – Digestive diseases


การรักษาและแนวทางดูแล

โรคทางเดินอาหารแต่ละชนิดมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่การใช้ยา ปรับพฤติกรรม ไปจนถึงการผ่าตัดในบางกรณี

  • โรคกรดไหลย้อน → ใช้ยาลดกรด ยาลดการสร้างกรด และการปรับพฤติกรรม เช่น หลีกเลี่ยงอาหารมันจัด นอนหัวสูง
  • โรคตับและไขมันพอกตับ → ควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก และรักษาโรคร่วม เช่น เบาหวานและไขมันสูง ร่วมกับการตรวจติดตามที่ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง
  • โรคกระเพาะอาหาร → ใช้ยาลดกรด ยาฆ่าเชื้อ H. pylori และหลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้อักเสบโดยไม่จำเป็น
  • โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง → ใช้ยาควบคุมการอักเสบ การปรับอาหาร และบางกรณีอาจต้องผ่าตัด

โปรแกรมตรวจสุขภาพทางเดินอาหาร

โรงพยาบาลปิยะเวทได้ออกแบบโปรแกรมตรวจสุขภาพทางเดินอาหารเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือมีอาการผิดปกติ

  • โปรแกรมพื้นฐาน : ตรวจสุขภาพทั่วไปและอัลตราซาวด์ช่องท้อง
  • โปรแกรมมาตรฐาน : เพิ่มการส่องกล้องกระเพาะอาหาร
  • โปรแกรมขั้นสูง : ส่องกล้องลำไส้ใหญ่และตรวจหาไวรัสตับอักเสบ

ตรวจสุขภาพ
ศูนย์อายุรกรรม

👉 CTA: นัดหมายส่องกล้อง โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่


จุดเด่นของศูนย์โรคทางเดินอาหาร ปิยะเวท

  1. ทีมแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินอาหารที่มีประสบการณ์สูง
  2. เครื่องมือทันสมัย เช่น ส่องกล้องความละเอียดสูง
  3. บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ตรวจ วินิจฉัย รักษา และติดตามผล
  4. การทำงานร่วมกับศูนย์อื่น ๆ เช่น ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง และ ศูนย์หัวใจ เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคร่วม

สรุป

ศูนย์โรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลปิยะเวท เป็นศูนย์ที่พร้อมดูแลผู้ป่วยโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน โรคตับ ไขมันพอกตับ และลำไส้อักเสบ ด้วยการตรวจที่ครอบคลุมและการรักษาที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง

👉 CTA: สนใจตรวจทางเดินอาหาร โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่

ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลปิยะเวท


ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลปิยะเวท ดูแลรักษาโรคนิ่ว โรคต่อมลูกหมาก การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) ด้วยเทคโนโลยีการตรวจและการผ่าตัดที่ทันสมัย พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทาง


ความสำคัญของโรคระบบทางเดินปัสสาวะ

ระบบทางเดินปัสสาวะเป็นระบบที่ช่วยขับของเสียและควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย หากเกิดความผิดปกติ ไม่เพียงสร้างความเจ็บปวดและความไม่สบาย แต่ยังส่งผลต่อการทำงานของไตและระบบอื่น ๆ ในร่างกายด้วย

โรคทางเดินปัสสาวะพบบ่อยในทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ในผู้ชายสูงอายุ มักพบปัญหาต่อมลูกหมากโต ขณะที่ผู้หญิงมักมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้โรคนิ่วยังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย

ศูนย์ไตเทียม
ศูนย์อายุรกรรม


โรคที่พบบ่อยในระบบทางเดินปัสสาวะ

  1. โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
    เกิดจากการตกผลึกของแร่ธาตุในปัสสาวะ จนกลายเป็นก้อนนิ่ว ผู้ป่วยมักมีอาการปวดเอว ปัสสาวะเป็นเลือด หรือปัสสาวะลำบาก
  2. โรคต่อมลูกหมากโต (BPH)
    มักพบในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป อาการได้แก่ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะสะดุด หรือปัสสาวะไม่สุด หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดการคั่งของปัสสาวะและไตเสื่อม
  3. การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI)
    พบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อาการได้แก่ แสบขัดเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย และปัสสาวะมีกลิ่น การรักษาต้องใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการปรับพฤติกรรม
  4. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะและมะเร็งไต
    แม้จะไม่พบบ่อยเท่าโรคอื่น แต่จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น การรักษามีโอกาสได้ผลดีสูง

ตรวจสุขภาพ
ศูนย์หัวใจ


การตรวจวินิจฉัยโรคระบบทางเดินปัสสาวะ

ที่ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลปิยะเวท มีเทคโนโลยีการตรวจที่ครบถ้วนและแม่นยำ เช่น

  • Ultrasound ช่องท้องและไต : ตรวจหานิ่ว ก้อน หรือความผิดปกติ
  • CT Scan : ใช้กรณีต้องการความละเอียดสูงในการหานิ่วหรือก้อนเนื้อ
  • Uroflowmetry : ตรวจการไหลของปัสสาวะ
  • Cystoscopy (ส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ) : ใช้ตรวจหาความผิดปกติ เช่น เนื้องอกหรือการอักเสบ

การรักษาโรคระบบทางเดินปัสสาวะ

  1. การรักษานิ่ว
    • นิ่วขนาดเล็ก → ใช้ยาและดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อขับออก
    • นิ่วขนาดใหญ่ → ใช้วิธีสลายนิ่วด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ESWL) หรือผ่าตัดผ่านกล้อง
  2. การรักษาต่อมลูกหมากโต
    • ระยะแรก → ใช้ยาเพื่อลดการอุดกั้น
    • ระยะรุนแรง → การผ่าตัดผ่านกล้อง TURP ซึ่งมีแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว
  3. การรักษา UTI
    • ให้ยาปฏิชีวนะตามเชื้อที่ตรวจพบ
    • แนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมาก ๆ และรักษาความสะอาด
  4. การรักษามะเร็งทางเดินปัสสาวะ
    • การผ่าตัดเอาเนื้องอกออก
    • การให้ยาเคมีบำบัดหรือฉายแสงในกรณีที่ลุกลาม

ศูนย์ไตเทียม
ศูนย์อายุรกรรม


โปรแกรมตรวจสุขภาพทางเดินปัสสาวะ

ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลปิยะเวท มีโปรแกรมตรวจสุขภาพเฉพาะทางสำหรับระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อค้นหาความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ

  • ตรวจปัสสาวะทั่วไป : ตรวจหาการติดเชื้อและโปรตีนในปัสสาวะ
  • ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องและไต : ค้นหานิ่วหรือก้อนเนื้อ
  • ตรวจต่อมลูกหมาก (PSA) : สำหรับผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป
  • การส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ : หากมีอาการผิดปกติรุนแรงหรือเรื้อรัง

👉 CTA: นัดหมายตรวจทางเดินปัสสาวะ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่


จุดเด่นของศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ ปิยะเวท

  1. ทีมแพทย์เฉพาะทางระบบทางเดินปัสสาวะที่มีประสบการณ์สูง
  2. เครื่องมือทันสมัย เช่น เครื่องสลายนิ่วและการผ่าตัดผ่านกล้อง
  3. การดูแลผู้ป่วยอย่างครบวงจร รักษาและติดตามผลระยะยาว
  4. การประสานการรักษากับ ศูนย์ไตเทียม, ศูนย์อายุรกรรม และ ตรวจสุขภาพ เพื่อการดูแลโรคร่วม

สรุป

ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลปิยะเวท พร้อมให้บริการตรวจและรักษาโรคนิ่ว โรคต่อมลูกหมาก และการติดเชื้อ UTI ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัย

👉 CTA: สนใจตรวจทางเดินปัสสาวะ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่

ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลปิยะเวท


ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลปิยะเวท ให้บริการฟอกไตด้วยเครื่องมาตรฐานสากล ดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังอย่างครบวงจร โดยทีมแพทย์และพยาบาลเฉพาะทาง


ความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคไต

โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease: CKD) เป็นปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคไตจนเข้าสู่ระยะรุนแรง เพราะอาการในระยะแรกมักไม่ชัดเจน เช่น อ่อนเพลีย บวม และความดันโลหิตสูง เมื่อเข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง ร่างกายไม่สามารถขับของเสียออกได้ จำเป็นต้องเข้ารับการฟอกไตอย่างสม่ำเสมอ

ที่ ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลปิยะเวท ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างครบวงจร ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การวินิจฉัย ไปจนถึงการฟอกไตและติดตามผลอย่างใกล้ชิด

ศูนย์อายุรกรรม
ตรวจสุขภาพ


โรคไตเรื้อรังและปัจจัยเสี่ยง

โรคไตเรื้อรังมักเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังอื่น ๆ โดยเฉพาะ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ไตเสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง

  • เบาหวาน : น้ำตาลในเลือดสูงทำลายเส้นเลือดฝอยในไต
  • ความดันโลหิตสูง : ทำให้ไตทำงานหนักขึ้นและเสื่อมเร็วขึ้น
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด : ส่งผลต่อการทำงานของไตในระยะยาว
  • การใช้ยาบางชนิด : เช่น ยาแก้อักเสบติดต่อกันเป็นเวลานาน

ดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงควรตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ โดยเฉพาะที่ ศูนย์อายุรกรรม ซึ่งสามารถตรวจคัดกรองและส่งต่อมายังศูนย์ไตเทียมได้ทันที

WHO – Chronic kidney disease


การวินิจฉัยโรคไต

ศูนย์ไตเทียมมีการตรวจหลากหลายรูปแบบ รวมกับ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง เพื่อประเมินการทำงานของไต ได้แก่

  • การตรวจเลือด (Serum Creatinine, eGFR) เพื่อวัดประสิทธิภาพของไต
  • การตรวจปัสสาวะ เพื่อหาความผิดปกติ เช่น โปรตีนในปัสสาวะ
  • อัลตราซาวด์ไต เพื่อดูโครงสร้างและขนาดของไต
  • CT Scan ไต กรณีที่ต้องการข้อมูลละเอียดเพิ่มเติม

ผลการตรวจเหล่านี้ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินระยะโรคไตและวางแผนการรักษาได้ตรงจุด

ศูนย์หัวใจ


บริการฟอกไตที่ศูนย์ไตเทียม ปิยะเวท

ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย จำเป็นต้องได้รับการฟอกไตเพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย ศูนย์ไตเทียม ปิยะเวทให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด

  • Hemodialysis (การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม) : ใช้เครื่องฟอกเลือดคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล
  • Peritoneal Dialysis (การล้างไตทางช่องท้อง) : สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการทำการล้างไตที่บ้าน โดยแพทย์จะให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
  • บริการฉุกเฉิน : รองรับผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเฉียบพลัน

ทุกขั้นตอนดำเนินการภายใต้การดูแลของแพทย์โรคไตและพยาบาลเฉพาะทาง


การดูแลผู้ป่วยโรคไตแบบองค์รวม

ศูนย์ไตเทียมไม่ได้ให้บริการเพียงการฟอกไตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดูแลในทุกมิติ

  • การให้คำแนะนำด้านโภชนาการ : ควบคุมปริมาณน้ำ เกลือ และโปรตีน
  • การติดตามความดันโลหิต : เพราะผู้ป่วยโรคไตส่วนใหญ่มีความดันสูงร่วมด้วย
  • การดูแลโรคร่วม : เช่น โรคหัวใจที่เชื่อมโยงกับการทำงานของไต โดยอาจส่งต่อผู้ป่วยไปยัง ศูนย์หัวใจ
  • การตรวจสุขภาพต่อเนื่อง : เพื่อประเมินภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

ศูนย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะ


โปรแกรมตรวจสุขภาพไต

เพื่อตรวจหาความผิดปกติในระยะเริ่มต้น ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลปิยะเวท มีโปรแกรมตรวจสุขภาพไตที่หลากหลาย

  • ตรวจพื้นฐาน : ตรวจเลือดและปัสสาวะ
  • ตรวจมาตรฐาน : เพิ่มการตรวจอัลตราซาวด์ไต
  • ตรวจเชิงลึก : รวม CT Scan และการปรึกษาแพทย์โรคไตโดยตรง

👉 CTA: นัดหมายตรวจสุขภาพไต โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่


จุดเด่นของศูนย์ไตเทียม ปิยะเวท

  1. ทีมแพทย์และพยาบาลเฉพาะทางโรคไตที่มีประสบการณ์สูง
  2. เครื่องฟอกไตคุณภาพมาตรฐานสากล
  3. การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งโภชนาการและโรคร่วม
  4. การประสานงานกับศูนย์อื่น ๆ เช่น ศูนย์หัวใจ, ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง และ ตรวจสุขภาพ

สรุป

ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลปิยะเวท เป็นศูนย์ที่มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การวินิจฉัย การฟอกไต ไปจนถึงการดูแลโรคร่วมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาวที่สุด

👉 CTA: สนใจตรวจไตหรือฟอกไต โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่

จุดเด่นของ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ปิยะเวท


จุดเด่นของ ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ปิยะเวท คือการดูแลโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน และโรคทางเดินอาหารอย่างครบวงจร โดยทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีทันสมัย


ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง โรงพยาบาลปิยะเวท ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแลระยะยาวอย่างมีคุณภาพ ความพิเศษไม่ได้อยู่ที่เพียงการรักษา แต่รวมถึง การป้องกัน การตรวจสุขภาพ และการติดตามผล ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ครบวงจร

จุดเด่นสำคัญมีดังนี้:

  1. การทำงานแบบสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary Team)
    ศูนย์นี้รวมทีมแพทย์เฉพาะทางหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นแพทย์อายุรกรรม แพทย์หัวใจ แพทย์ระบบทางเดินอาหาร และแพทย์ไต ทีมแพทย์เหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ศูนย์หัวใจ
    ศูนย์ไตเทียม
  2. เทคโนโลยีการตรวจและรักษาที่ทันสมัย
    ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตรวจหัวใจ CT Scan การส่องกล้องทางเดินอาหาร หรือเครื่องฟอกไตมาตรฐานสากล ทุกอย่างล้วนถูกเลือกมาเพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาให้แม่นยำและปลอดภัยที่สุด k → ศูนย์โรคทางเดินอาหาร
  3. โปรแกรมตรวจสุขภาพที่ครอบคลุม
    โรงพยาบาลปิยะเวทมีแพ็กเกจตรวจสุขภาพที่หลากหลาย ตั้งแต่การตรวจพื้นฐานสำหรับประชาชนทั่วไป ไปจนถึงโปรแกรมเจาะลึกเฉพาะโรค เช่น ตรวจสุขภาพหัวใจ และการตรวจไตสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและความดัน
  4. การติดตามผลและการดูแลต่อเนื่อง
    ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต้องการการติดตามผลอย่างใกล้ชิด แพทย์และพยาบาลที่นี่จะประสานงานกับทุกศูนย์เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลครบวงจร เช่น ผู้ป่วยเบาหวานสามารถเข้าตรวจที่ ศูนย์อายุรกรรม และหากพบภาวะหัวใจผิดปกติ ก็จะถูกส่งต่อไปยัง ศูนย์หัวใจ ได้ทันที
  5. มาตรฐานโรงพยาบาลสากล (JCI Accreditation)
    ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรังโรงพยาบาลปิยะเวทได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับสากล ผู้ป่วยจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและคุณภาพการรักษาที่ได้มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลชั้นนำทั่วโลก

สรุปได้ว่า ศูนย์อายุรกรรมและโรคเรื้อรัง ปิยะเวท ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่รักษา แต่คือศูนย์กลางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งในด้านการรักษา การป้องกัน และการฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพ

👉 CTA: สนใจตรวจสุขภาพหรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โทร. 1489 หรือ จองออนไลน์ได้ที่นี่

No data was found
Scroll to Top