บทความเพื่อสุขภาพ

โรคไอพีดี และหูชั้นกลางอักเสบ

โรคไอพีดีคืออะไร

โรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส(IPD, Invasive Pneumococcal Disease) เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า สเตรปโตคอคคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae) ซึ่งทำให้เกิดโรคดังต่อไปนี้

  1. โรคติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยจะมีอาการ ไข้สูง ซึมลง ความดันโลหิตต่ำ
  2. โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีไข้ ซึมลง ปวดศีรษะ บางรายอาจมีอาการชักได้
  3. โรคปอดบวม ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง เหนื่อยหอบ อาจเกิดหลังจากติดเชื้อไวรัสโดยเฉพาะไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้
  4. โรคหูชั้นกลางอักเสบ อาการไข้ ปวดหู อาจทำให้แก้วหูทะลุ หรือสูญเสียการได้ยินได้

ทำความรู้จักกับ “เชื้อนิวโมคอคคัส”

เชื้อนิวโมคอคคัส เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่ในโพรงจมูก และลำคอ  สามารถแพร่กระจายโดย ผ่านการไอหรือจาม ในประเทศไทยพบว่ามี 5 สายพันธุ์ที่พบบ่อย ได้แก่ 6A,6B, 14,18C,19A  โดยพบว่าอุบัติการณ์ของสายพันธุ์ 19A ในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และเป็นสายพันธุ์ที่พบปัญหาดื้อยาสูง ทำให้รักษาได้ยาก

โรค IPD อันตรายแค่ไหน

  1. เด็กทารกที่เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากโรค IPD มีโอกาสเสียชีวิตถึง 50%
  2. เด็กทารกที่เคยป่วยเป็นโรค IPD มีโอกาสสูญเสียการได้ยิน พิการทางสมอง การเคลื่อนไหวร่างกายผิดปกติ และมีอาการชักได้
  3. ผู้ป่วยต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลโดยเฉลี่ย นานถึง 12 วัน

 ใครบ้างที่เสี่ยงต่อโรค IPD

  1. เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
  2. ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหอบหืด ภาวะไม่มีม้าม หรือม้ามทำงานบกพร่อง โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน
  3. ผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี

วิธีป้องกันจากโรค IPD

  1. หลักเลี่ยงการไปสถานที่แออัด
  2. ล้างมือบ่อยๆ
  3. สร้างภูมิคุ้มกันโรค IPD

การป้องกันโรคโดยการฉีด “วัคซีนป้องกันไอพีดี”

วัคซีนไอพีดีโดยส่วนมากจะแนะนำให้ฉีดในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เพราะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดรุนแรง เด็กทารกเริ่มฉีดได้เมื่ออายุ 2 เดือนขึ้นไป และฉีดเข็มต่อไปเมื่ออายุได้ 4 เดือน และ 6 เดือน และครั้งสุดท้ายในช่วงอายุ 12-15 เดือน โดยหากเด็กอายุเกินกว่า 6 เดือนขึ้นไป ยังสามารถฉีดได้ แต่จำนวนเข็มที่ต้องฉีดจะเป็นไปตามอายุที่เริ่มฉีด  โดยสามารถปรึกษาและสอบถามข้อมูลกับแพทย์เพิ่มเติม

นอกจากนี้แนะนำให้ฉีดในกลุ่มเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ที่มีการเจ็บป่วยบ่อยหรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อนิวโมคอคคัส และน่าจะได้รับประโยชน์จากการฉีดวัคซีนมากกว่าเด็กกลุ่มอื่น ทั้งนี้การฉีดวัคซีนถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ หากได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรับวัคซีนที่เหมาะสมกับช่วงวัย ปัญหาสุขภาพของลูกน้อยก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป

 

 

ศูนย์กุมารเวชกรรม

ชั้นเอ็ม,

อาคารหลัก

เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง

โทร. 02-129-5517, 061-397-9328

Scroll to Top