บริการทางการแพทย์
ศูนย์ตรวจสุขภาพ
3 Floor(MRI), Open everyday
7:00-17:00 Tel. 02-129-5555
“สุขภาพร่างกายที่ดี หาซื้อไม่ได้” ดังนั้นคุณจึงไม่ควรมองข้ามการดูแลตัวเองและหมั่นไปตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำ เพื่อคัดกรองความเสี่ยง ป้องกันโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมรับคำแนะนำจากแพทย์ พยาบาล และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงต่อไปในระยะยาว
ร่างกายของคนเรามีการทำงานตลอดเวลาไม่เคยหยุดพัก แม้ในขณะที่กำลังนอนหลับ ส่งผลให้เกิดการเสื่อมสภาพไปตามการใช้งานและอายุ ประกอบกับลักษณะการดำเนินชีวิตประจำวันที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เพศ วัย โรคประจำตัว หรือแม้กระทั่งการที่บุคคลในครอบครัวเป็นหรือเคยเป็นโรคใดโรคหนึ่ง ซึ่งก่อให้เกิดโรคทางกรรมพันธุ์ได้ ทั้งหมดย่อมทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคที่ต่างกัน การบำรุงรักษาและตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการประเมินภาวะสุขภาพ ค้นหาความเสี่ยงของการเกิดโรค ซึ่งจะนำไปสู่การวางแผนป้องกัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สร้างความเสี่ยงในการเกิดโรค หรือในกรณีที่เริ่มมีอาการผิดปกติก็จะได้หาแนวทางการป้องกันรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เพื่อไม่ให้ลุกลามกลายเป็นโรคต่อไป ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลปิยะเวท มีความพร้อมที่จะให้บริการด้านการตรวจสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้แก่
- การตรวจสุขภาพ มีโปรแกรมการตรวจสุขภาพหลากหลายให้เลือก ออกแบบขึ้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้รับบริการแต่ละบุคคล ตั้งแต่โปรแกรมการตรวจสายตา โปรแกรมการตรวจสุขภาพคู่รัก โปรแกรมการตรวจสุขภาพทั่วไปในแต่ละช่วงวัย เป็นต้น
- การตรวจสุขภาพนอกสถานที่ เรามีความพร้อมในการให้บริการตรวจสุขภาพประจำปีแก่พนักงานบริษัทในสถานที่ทำงานด้วยการตรวจร่างกายโดยแพทย์ ร่วมกับการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เพื่อช่วยในการคัดกรองโรค และให้คำแนะนำอย่างเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้ทุกท่านมีความสมบูรณ์พร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจในการปฏิบัติหน้าที่การงานได้อย่างเต็มที่
- การให้คำปรึกษาและคำแนะนำจากทีมงานและบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น การให้คำแนะนำทางโภชนาการด้านอาหารแก่ผู้รับบริการอย่างถูกต้องและเหมาะสมโดยโภชนากรผู้เชี่ยวชาญ การให้คำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางในแต่ละระบบ
- การป้องกันโรค เราตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรค ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการเกิดโรคต่างๆ ด้วยการให้ความรู้ความเข้าใจถึงโรคต่างๆ รวมถึงการป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ เป็นต้น
หัตถการ / เทคนิคการรักษา
- รายการตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลปิยะเวท ประกอบไปด้วย
- การตรวจร่างกายโดยแพทย์ เพื่อดูอาการเบื้องต้นทางร่างกาย และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
- การตรวจสุขภาพฟันโดยทันตแพทย์
- การตรวจตาโดยจักษุแพทย์
- การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ
- การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน
- การตรวจระดับไขมันในเลือด
- การตรวจการทำงานของไต
- การตรวจการทำงานของตับ เพื่อช่วยตรวจคัดกรอง และวินิจฉัยภาวะโรคตับ
- การตรวจการทำงานของตับและทางเดินน้ำดี
- การตรวจการทำงานของตับอ่อน
- การตรวจการติดเชื้อของตับ
- การตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์
- การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง
- การตรวจทางรังสี
- การตรวจภายในโดยสูติ–นรีแพทย์
- การตรวจหัวใจและหลอดเลือด
- การตรวจสมรรถภาพการได้ยิน
สิ่งอำนวยความสะดวก
- ห้องตรวจร่างกายและให้คำปรึกษาที่เป็นสัดส่วน
- ห้องเจาะเลือด
- ห้องตรวจสัญญาณชีพและตรวจการมองเห็น
- ห้องตรวจภายใน
- ห้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและทดสอบสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย
- ห้องฉายภาพรังสีและห้องปฏิบัติการต่างๆ
- ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและล็อคเกอร์เก็บของ
- ห้องพักผ่อน พร้อมเคาน์เตอร์อาหารว่างที่ให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพ
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนรับการตรวจสุขภาพ หากอดนอนจะทำให้ผลการตรวจผิดปกติ โดยเฉพาะความดันโลหิต การเต้นของหัวใจ และอุณหภูมิของร่างกาย อาจทำให้แพทย์ไม่สามารถประเมินได้ว่ามีความผิดปกติจริงหรือไม่
- งดอาหารและเครื่องดื่ม อย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนตรวจ (สามารถจิบน้ำเปล่าได้เล็กน้อย)
- งดดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจสุขภาพ เนื่องจากยาและแอลกอฮอล์ อาจมีผลต่อการตรวจบางอย่าง
- ควรไปถึงโรงพยาบาลในช่วงเช้า เพื่อไม่ให้ร่างกายอิดโรยเกินไป เนื่องจากงดน้ำและอาหารมาหลายชั่วโมงแล้ว
- หากกำลังรับประทานยาเพื่อควบคุมความดันโลหิต สามารถรับประทานต่อได้ตามคำแนะนำของแพทย์ แต่ควรแจ้งให้แพทย์หรือพยาบาลทราบก่อนการตรวจ
- หากมีโรคประจำตัว หรือประวัติสุขภาพด้านอื่นๆ กรุณานำผลการตรวจ หรือรายงานจากแพทย์มาด้วยเพื่อประกอบการวินิจฉัย
- ควรสวมเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการเจาะเลือดที่ข้อพับแขน
- สำหรับสุภาพสตรี ไม่ควรตรวจในช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือน 7 วัน
- หากมีประจำเดือน ให้งดตรวจปัสสาวะ เพราะเลือดจะปนเปื้อนในปัสสาวะและมีผลกระทบต่อผลการตรวจ
- หากตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วยการเอกซเรย์เต้านม (Mammogram) ควรหลีกเลี่ยงการตรวจในช่วงมีประจำเดือน เพราะเต้านมจะมีความคัดตึง ควรตรวจหลังมีประจำเดือน
- กรณีสงสัยว่าตั้งครรภ์ โปรดแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่องดตรวจเอกซเรย์
เทคโนโลยีทางการรักษา
- เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
- เครื่องตรวจคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI)
- การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นความถี่สูง (Ultrasound)
- การตรวจแมมโมแกรม (Mammography)
- เครื่องตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการเดินสายพาน (Exercise Stress Test)
เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ Computerized Tomography (CT Scan)
การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ คือการตรวจสแกนร่างกายด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อหาความผิดปกติในบริเวณที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งจะฉายรังสีเอกซเรย์ตามร่างกายในบริเวณที่ต้องการตรวจ จากนั้นคอมพิวเตอร์จะนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลและสร้างภาพอวัยวะส่วนนั้นๆ โดยสามารถทำการตรวจเก็บข้อมูลได้มากถึง 64 ภาพ ในการหมุนของหลอดเอกซเรย์ 1 รอบ ทำให้ได้ข้อมูลละเอียด ครอบคลุมอวัยวะที่ต้องการตรวจได้ครบในเวลาอันรวดเร็ว และยังสามารถนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาสร้างภาพใหม่ได้ทั้ง 2 และ 3 มิติ ในระนาบต่างๆที่ต้องการ รวมทั้งสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหว คือ 4 มิติได้ด้วย วิธีนี้แพทย์จะได้ภาพที่มีความละเอียดสูงกว่าการเอกซเรย์แบบธรรมดา และสามารถใช้ตรวจอวัยวะภายในร่างกายได้เกือบทุกส่วน เพื่อนำผลมาประกอบการวินิจฉัย และสามารถป้องกันรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที
ข้อดีของการตรวจเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
- สามารถสแกนตรวจอวัยวะในร่างกายส่วนใหญ่ได้
- ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดในขณะตรวจสแกน
- ภาพที่ได้มีรายละเอียดสูงกว่าการทำอัลตราซาวด์ ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้แม่นยำขึ้น
- สามารถสแกนได้รวดเร็วกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการสแกนแบบ MRI
การเตรียมตัวในการตรวจ
- งดอาหารและเครื่องดื่มก่อนการทดสอบ อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ควรงดอาหารมัน งดดื่มชา กาแฟและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- สามารถรับประทานยาตอนเช้าวันที่มาตรวจได้ตามปกติ เว้นแต่แพทย์สั่งให้งดยารักษาโรคหัวใจบางชนิดซึ่งอาจทำให้ผลการทดสอบผิดเพี้ยน เช่น งดยากลุ่มที่ทำให้หัวใจเต้นช้า ยากลุ่ม Beta-blockers โดยควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานอยู่ก่อนเข้ารับการตรวจ
- สวมเสื้อผ้าหลวมๆ ที่ใส่สบาย และสวมใส่รองเท้าที่สามารถเดินหรือวิ่งได้คล่องตัว