การฝากไข่ เพื่อลูกในอนาคต

การฝากไข่ เพื่อลูกในอนาคต

     ภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้หลายครอบครัวรอที่จะมีบุตรเมื่อพร้อม ผู้คนในยุคปัจจุบันจึงดูจะไม่รีบร้อนที่จะมีลูกต่างจากผู้คนในยุคก่อน ทำให้เสี่ยงมีปัญหาฟองไข่มีอายุมากและเสื่อมปริมาณและคุณภาพได้ ทำให้มีลูกยากทั้งที่สามารถป้องกันได้ การฝากไข่จึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่วางแผนการสร้างครอบครัวในอนาคต เพราะทำให้สามารถวางแผนชีวิตตนเองได้สะดวกขึ้นและสามารถเก็บรักษาภาวะการเจริญพันธุ์หรือปริมาณและคุณภาพของไข่ของตนเองไว้ได้นาน

 

การฝากไข่ (Egg Freezing)

     การแช่แข็งไข่ของผู้หญิงหรือ Egg Freezing เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ใช้สำหรับการเก็บสภาพไข่ในช่วงอายุที่พร้อมต่อการปฏิสนธิ คือที่อายุประมาณ 22-28 ปี คนในปัจจุบันมีแนวโน้มแต่งงานเมื่ออายุมากขึ้นและใช้เวลานานมากขึ้นกว่าจะวางแผนการมีบุตร ซึ่งกว่าจะพร้อมก็ทำให้ไข่อายุมาก เสื่อมปริมาณและคุณภาพและเกิดภาวะมีบุตรยาก ดังนั้นการฝากไข่ในช่วงอายุที่เหมาะสมจึงเป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจ

     การฝากไข่นี้ไม่ได้เหมาะเฉพาะกับผู้ที่แต่งงานแล้วเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับกลุ่มสาวโสดยุคใหม่ที่ต้องการวางแผนครอบครัวและการมีบุตรในอนาคต การฝากไข่เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะในขั้นตอนการเก็บไข่จะมีการคัดเลือกเฉพาะไข่ที่มีคุณภาพดีแช่แข็งไว้ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าหากแต่งงานช้าหรือเตรียมเงินสร้างความพร้อมมีบุตรช้าแล้วไข่จะเสื่อมปริมาณและคุณภาพจนไม่สามารถมีบุตรได้ เพราะไข่ที่มีคุณภาพดีและมีจำนวนเพียงพอจะถูกเก็บรักษาและคงสภาพไว้ เมื่อถึงเวลาจะใช้ก็สามารถนำออกมาละลายใช้ได้ทันที

การฝากไข่เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่โสด หรือยังไม่ได้แต่งงานแต่วางแผนจะมีบุตรในอนาคต
  • สามีภรรยาที่แต่งงานแล้ว แต่ยังไม่พร้อมมีบุตรตอนนี้
  • ผู้ที่กระตุ้นไข่เพื่อนำไปปฏิสนธิด้วยวิธี ICSI และได้ไข่จำนวนหลายใบสามารถฝากไข่แช่แข็งไว้ได้ เพื่อความสะดวกในการนำไปปฏิสนธิรอบใหม่ หรือต้องการมีบุตรเพิ่ม
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องรับการรักษาด้วยการฉายแสงหรือเคมีบำบัดหรือผู้ที่จะต้องทำการผ่าตัดรังไข่ เพราะการรักษาเหล่านั้นจะทำให้รังไข่เสื่อมคุณภาพและลดปริมาณฟองไข่สะสม

ขั้นตอนการฝากไข่ (Egg Freezing)

  1. แพทย์ซักประวัติและข้อมูลสุขภาพ เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายว่าเหมาะสมหรือไม่
  2. ฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นรังไข่ให้สร้างฟองไข่จำนวนมาก ฉีดยาประมาณ 10-14 วัน โดยปริมาณยาจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
  3. แพทย์ตรวจดูขนาดฟองไข่โดยการอัลตร้าซาวด์และตรวจฮอร์โมนในเลือด เมื่อฟองไข่มีขนาดเหมาะสมและปริมาณมากพอก็จะให้ฉีดยากระตุ้นเพื่อให้ไข่สุกพร้อมกัน
  4. ในวันเก็บไข่ วิสัญญีแพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึก สูติแพทย์จะเก็บไข่โดยใช้หัวอัลตร้าซาวด์ที่มีเข็มขนาดเล็กสอดเข้าไปทางช่องคลอดและเจาะดูดไข่ออกมา นักวิทยาศาสตร์จะตรวจสอบคุณภาพของไข่ เลี้ยงและคัดเลือกไข่ในห้องปฏิบัติการ หลังจากนั้นจะทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็วโดยไนโตรเจนเหลว เพื่อคงสภาพไข่ไว้

  • ** การฝากไข่มีประโยชน์ในการคงประสิทธิภาพไข่ให้เหมาะสมในการมีบุตรในอนาคต แต่ก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และไข่ที่นำออกมาแล้วจะต้องใช้การปฏิสนธิภายนอกอย่าง IVF หรือ ICSI เท่านั้น เพื่อให้ได้เป็นตัวอ่อนใส่กลับเข้าไปในมดลูกเมื่อพร้อมและต้องการมีบุตร


 

Scroll to Top