ไข้หวัดใหญ่ รู้ก่อนป้องกันได้

ไข้หวัดใหญ่คืออะไร 

     เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซ่า (Influenza Virus) ในทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้มีไข้ ไอ น้ำมูก คัดจมูก จาม อาจมีอาการปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลียคล้ายกับไข้หวัด แต่อาการจะรุนแรงกว่า นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดลมและปอดอักเสบ นอกจากนั้นยังทำให้โรคประจำตัวมีอาการกำเริบจากการติดเชื้อ เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับตับและไต ซึ่งมีการระบาดเป็นช่วงๆ ในหน้าฝนและหน้าหนาว เป็นเชื้อที่มีโอกาสกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่รุนแรงได้   
     
     เพราะทุกคนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้การแนะนำวิธี ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิด ได้แก่

  1. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์
  2. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์

     โดยชนิด 4 สายพันธุ์สามารถครอบคลุมเชื้อไวรัสสายพันธุ์ B ได้มากกว่า กล่าวคือครอบคลุมเชื้อไวรัสสายพันธุ์ A ทั้ง H1N1 และ H3N2 และสายพันธุ์ B ทั้งตระกูล Victoria และ Yamagata จึงเพิ่มความสามารถในการครอบคลุมเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มีการระบาด ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้ดีขึ้น 

     วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ควรฉีดเป็นประจำทุกปี เนื่องจากวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในแต่ละปี เป็นเชื้อต่างชนิดกันและบางสายพันธุ์คาดการณ์การระบาดได้ยาก ดังนั้นควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้มีภูมิคุ้มกันสูงตลอดเวลาและครอบคลุมสายพันธุ์ที่คาดว่าจะระบาดในปีนั้นๆให้มากที่สุด โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตลอดปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ก่อนฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) และก่อนฤดูหนาว (เดือนตุลาคม) เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาด

การติดต่อทางไหนได้บ้าง

     โรคไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ทางการหายใจ ไอ จาม

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่

     อาการโดยทั่วๆ ไปจะคล้ายไข้หวัดจากเชื้ออื่นๆ ทั่วไป แต่มีโอกาสที่จะรุนแรง มีไข้ และเกิดโรคแทรกซ้อนได้มากกว่า ผู้ป่วยจะมีน้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ มีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว โดยทั่วไปจะมีอาการ 2-3 วัน แต่บางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น ปอดบวม และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หลังจากหายอาจมีอาการอ่อนเพลียไปอีกหลายสัปดาห์

วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่คืออะไร

     วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนชนิดฉีด ผลิตจากเชื้อที่ตายแล้ว โดยผ่านกระบวนการผลิตที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ผู้ฉีดวัคซีนแล้วยังอาจเป็นไข้หวัดใหญ่ได้แต่ความรุนแรงจะลดลง วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ป้องกันไข้หวัดทั่วไปที่เกิดจากเชื้ออื่นๆ

ควรฉีควัคซีนเมื่อไหร่

     วัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตลอดปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ก่อนฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) และ ก่อนฤดูหนาว (เดือนตุลาคม) เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาด

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ สำหรับเด็ก ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป

     สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ครั้งแรกในเด็กที่อายุน้อยกว่า 9 ปี ต้องฉีด 2 ครั้ง โดย ครั้งที่ 2 ฉีดห่างจากครั้งแรก 1 เดือน ครั้งต่อไปสามารถฉีดปีละครั้งได้ การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันจึงมีความคุ้มค่ามากกว่า เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายในการรักษาเมื่อเป็นโรคแล้ว สิ่งสำคัญ คือ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือ ใกล้ชิดกับคนที่เป็นหวัด ไม่ควรใช้ของใช้ต่างๆ ร่วมกัน โดยเฉพาะช้อน จาน ชาม ไม่ควรอยู่ในสถานที่แออัด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสคนป่วย เนื่องจากเชื้อมักอยู่ในละอองฝอย น้ำมูก น้ำลายของผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม วัคซีนไข้หวัดใหญ่ควรฉีดทุกปี เพราะเชื้อไวรัสจะเปลี่ยนสายพันธุ์ที่ระบาดแต่ละปีไม่เหมือนกัน

อาการข้างเคียงหลังได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่

     วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ อาจจะมีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด มีไข้ปวดเมื่อย อาการดังกล่าว มักหายภายใน 1-2 วัน ส่วนการแพ้รุนแรงพบได้น้อยมาก หลังได้รับวัคซีนจึงควรสังเกตอาการในโรงพยาบาลเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังการแพ้ที่รุนแรง

การดูแลรักษาอาการข้างเคียง  

     หากปวด บวมบริเวณที่ฉีดให้ประคบด้วยผ้าเย็น หากมีไข้ให้รับประทานยาลดไข้ในขนาดที่เหมาะสม หากมีอาการรุนแรง หรือเป็นมาก ควรปรึกษาแพทย์ทันทีและแจ้งอาการให้ทราบโดยละเอียด

ใครไม่ควรฉีดวัคซีนหรือควรเลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

  • เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน
  • คนที่มีประวัติแพ้ไข่อย่างรุนแรง
  • ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วมีอาการแพ้อย่างรุนแรง
  • หากมีไข้หรือเจ็บป่วยเฉียบพลัน ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อน

กรณีเป็นหวัดเล็กน้อย ไม่มีไข้ สามารถรับการฉีดวัคซีนได้

Scroll to Top