เตือนภัย! ข้อเข่าเสื่อมไม่ได้มีแค่ในผู้สูงวัย

เตือนภัย! ข้อเข่าเสื่อมไม่ได้มีแค่ในผู้สูงวัย คนอายุ 40+ ก็มีความเสี่ยง
เตือนภัย! ข้อเข่าเสื่อมไม่ได้มีแค่ในผู้สูงวัย คนอายุ 40+ ก็มีความเสี่ยง

หลายคนเข้าใจว่าโรคข้อเข่าเสื่อมจะเกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว “โรคข้อเข่าเสื่อม” เป็นภัยเงียบที่แอบแฝงอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคน หากใช้ข้อเข่าอย่างไม่ระมัดระวังและไม่ดูแลให้ดี คุณก็อาจเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน เพื่อสุขภาพข้อเข่าที่ดี

ต้นเหตุ "เข่าเสื่อม"

ข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวข้อตามกาลเวลา เกิดจากกระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลายจากการเปลี่ยนแปลงภายในข้อ และร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมกระดูกอ่อนผิวข้อได้ทันกับการที่ถูกทำลายไป

เมื่อกระดูกอ่อนผิวข้อมีเลือดมาเลี้ยงน้อย ส่งผลให้เซลล์กระดูกอ่อนได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ ไม่สามารถสังเคราะห์สารต่างๆ ที่จำเป็นไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ ส่งผลให้ข้อที่เสื่อมไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ทำให้มีอาการเจ็บปวดในการใช้ชีวิตประจำวัน โรคนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะสาเหตุของการเสื่อมของข้อเข่ามีหลายประการ ดังนี้

สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม
  • อายุ – มักเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปมีโอกาสเป็นโรคนี้ถึง 40%
  • เพศ – เพศหญิงมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า
  • น้ำหนัก – น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะเพิ่มแรงกระทำกับข้อเข่ามากขึ้น รวมทั้งเซลล์ไขมันที่มีมากเกินไปจะส่งผลทำให้เซลล์กระดูกอ่อนและเซลล์กระดูกเสื่อมเร็วขึ้น
  • การใช้งานเข่า – การทำกิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันที่มีแรงกดต่อข้อเข่ามากยิ่งเพิ่มความเสี่ยง เช่น การวิ่งมาราธอน การเดินขึ้น-ลงบันได
  • อุบัติเหตุ – การได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบริเวณข้อหรือเส้นเอ็น หรือการบาดเจ็บเรื้อรังจากการออกกำลังกาย
  • โรคประจำตัวที่มีผลกับข้อเข่า – เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเกาต์
เช็คอาการ "ข้อเข่าเสื่อม"
  • ปวดเข่า – ปวดบริเวณข้อ ปวดเรื้อรัง ปวดมากขึ้นเมื่อมีการใช้งาน และทุเลาลงเมื่อพักการใช้งาน
  • มีเสียงในข้อเข่า – เมื่อขยับเคลื่อนไหว
  • ข้อเข่าตึง ฝืด – เมื่อพักการใช้งานข้อเข่าเป็นเวลานาน
  • ปวดเสียวที่ข้อเข่า – เมื่อขึ้น-ลงบันได
  • เข่าเปลี่ยนรูป – เกิดจากการเสื่อมของเข่าและเกิดกระดูกงอก ทำให้เข่าเปลี่ยนรูป

หากปล่อยไว้นานไม่ทำการรักษา อาจจะรุนแรงถึงขั้นไม่สามารถเดินได้ เพื่อการรักษาข้อเข่าให้อยู่กับเราได้อีกนาน หากมีอาการควรรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อม” ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถรักษาแบบควบคุมอาการปวดได้ และทำให้ข้อเข่าสามารถกลับมาใช้งานได้ปกติหรือเหมือนเดิมให้มากที่สุด และป้องกันการผิดรูปของข้อเข่าอีกด้วย ทั้งนี้การรักษานั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยของผู้ป่วยที่แตกต่างกัน โดยแบ่งการรักษาออกเป็น 2 แบบด้วยกัน

1. รักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด
  • ออกกำลังกาย – เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง
  • ลดน้ำหนัก – ให้อยู่ในเกณฑ์เพื่อลดแรงกระทำต่อข้อ
  • ใช้เครื่องช่วยเดิน – เพื่อผ่อนการลงน้ำหนัก ลดแรงกระทำต่อข้อ เช่น ไม้ค้ำ ไม้เท้า
  • การประคบ – ประคบร้อนเมื่อมีอาการปวดในช่วง 48 ชั่วโมงแรก และประคบเย็นช่วง 48 ชั่วโมงหลังมีอาการปวด การรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ การกระตุ้นไฟฟ้าผ่านผิว การเลเซอร์ หรือฝังเข็ม
  • การใช้ยา – กลุ่มต่างๆ ที่รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม อย่างเช่น พาราเซตามอล บรรเทาอาการปวดในเบื้องต้น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ การฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อ ช่วยลดอาการปวด และช่วยการเคลื่อนไหวให้ดีขึ้น
2. การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม

เป็นการรักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้ในกรณีข้อเสื่อมอย่างรุนแรง ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ หรือมีอาการผิดรูปของข้อมาก เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิผลมาก

แพทย์ประจำศูนย์

ศูนย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลปิยะเวท

ศูนย์กระดูกและข้อของเรา พร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาปัญหาเข่าด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคุณ

Scroll to Top