Post Views: 227
เด็กหลอดแก้ว IVF รักษาภาวะมีบุตรยาก
การทำเด็กหลอดแก้ว IVF คือ เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์สมัยใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้คู่สมรสที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากให้มีโอกาสตั้งครรภ์ ซึ่งอัตราความสำเร็จและความปลอดภัยสูง
เด็กหลอดแก้ว IVF คืออะไร
IVF (In-vitro Fertilization) หรือที่หลายคนเคยได้ยินรู้จักกันกับคำว่า เด็กหลอดแก้ว ซึ่งสาเหตุที่รียกกันว่าเด็กหลอดแก้วนั้นสาเหตุเนื่องจากเป็นการปฎิสนธิภายนอกร่างกาย โดยการนำทั้งไข่ของฝ่ายหญิงและอสุจิของฝ่ายชายที่คัดแล้วมาปฎิสนธิภายในหลอดแก้วทดลอง จากนั้นจึงนำมาเพาะเลี้ยงต่อภายในห้องปฏิบัติการควบคุมอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมอย่างดีจนเกิดเป็นตัวอ่อน แล้วจึงนำตัวอ่อนนั้นย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติต่อไป
ใครเหมาะกับการทำเด็กหลอดแก้ว IVF
– คู่สมรสที่แต่งงานมานาน ลองใช้วิธีธรรมชาติแล้วไม่ตั้งครรภ์
– ผู้มีปัญหาด้นระบบสืบพันธุ์ เช่นท่อนำไข่ตัน เยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ
– ผู้มีระบบฮอร์โมนรังไข่ผิดปกติมีภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง หรือรังไข่เสื่อม
– ฝ่ายชายมีน้ำเชื้อน้อย อ่อนแอ มีรูปร่างผิดปกติเคลื่อนไหวช้า
– คู่สมรสที่ได้รับการรักษาด้วยการทำ IUI (การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก)มาแล้ว3-6 รอบแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว IVF
- การกระตุ้นไข่
โดยเริ่มแรกจำเป็นจะต้องมีการตรวจความพร้อมของร่างกายคู่สมรสทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหญิง ได้แก่การเจาะตรวจเลือดเพื่อดูค่าฮอร์โมน โรคติดต่อทางพันธุกรรมและโรคติดต่อจากเชื้อโรค รวมทั้งตรวจโรคเลือดอื่นๆที่อาจจะมีผลในขณะตั้งครรภ์ โดยจะเจาะเลือดตรวจในวันที่ 2-3 ของการมีรอบเดือน ซึ่งการตรวจนี้จะเป็นการประเมินการทำงานของรังไข่ จากนั้นจะมีการตรวจอัลตราซาวน์เพื่อประเมินจำนวนไข่ของรอบเดือนนั้น จากนั้นจึงเริมการฉีดยากระตุ้นไข่ โดยจะฉีดบริเวณหน้าท้อง ส่วนปริมาณยาที่จะฉีดนั้นจะประเมินโดยแพทย์ผู้ทำการรักษา ซึ่งตัวยาที่ฉีดนั้นจะเป็นยาที่มีผลต่อการกระตุ้นให้ไข่มีการพัฒนาและมีการเติบโตขึ้นได้ครั้งละหลายๆใบ และในระหว่างการฉีดยาแพทย์จะมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนรวมถึงอัลตราซาวน์เพื่อติดตามการเจริญเติบโตของไข่เป็นระยะ เพื่อดูว่าไข่มีปริมาณเท่าไรและมีขนาดที่เหมาะสมที่จะทำการเก็บไข่ได้หรือไม่ จากนั้นจึงจะฉีดยาให้ไข่สุกพร้อมเก็บไข่ - การเก็บไข่
ขั้นตอนต่อมาคือแพทย์จะนัดคนไข้เพื่อทำการเก็บไข่ โดยจะทำการดูดข่าออกจากรังไข่ของฝ่ายหญิงด้วยการใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอดซึ่งจะใช้การอัลตราซาวน์ร่วมด้วย ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาที โดยไข่ที่ได้จะส่งต่อไปให้นักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อนเป็นผู้ดูแล - การตรวจคัดกรองอสุจิ
ในวันที่เก็บไข่คู่สมรสฝ่ายชายต้องมาเก็บน้ำเชื้อเพื่อเลือกตัวอสุจิที่ดีที่สุดมาใช้กรณีใช้Sperm สด แต่หากคู่สมรสฝ่ายชายไม่สะดวกสามารถแช่แข็งsperm ไว้ก่อนได้โดยนักวิทยาศาสตร์จะทำการละลายน้ำเชื้อออกมาใช้ในวันที่ฝ่ายหญิงมาเก็บไข่ หากฝ่ายชายเป็นผุ้มีปัญหาทางสมรรถภาพทางเพศเช่นอวัยวะเพศไม่แข็งตัว ท่อเชื้ออสุจิอุดตัน แพทย์จะใช้วิธีการเก็บน้ำเชื้อโดยการนำเข็มดูดออกทางลูกอัณฑะหรือผ่าตัดเล็กผ่านกล้องจุลทรรศน์เพื่อนำเชื้อออกมา จากนั้นเชื้อจะถูกส่งไปยังห้องปฎิบัติการวิทยาศาสตร์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตัวที่สมบูรณืและแข็งแรงที่สุดมาใช้ในการปฎิสนธิ - การปฏิสนธิ
เมื่อดูดได้ไข่และอสุจิที่แข็งแรงได้แล้ว นักวิยาศาสตร์จะนำไข่และอสุจิใส่ในหลอดแก้วเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิให้เกิดเป็นตัวอ่อน ซึ่งในขั้นตอนนี้จะต้องทำการเลี้ยงภายในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ควบคุมความชื้นและก๊าซอย่างดีอย่างจนกลายเป็นตัวอ่อน - การย้ายตัวอ่อน
กระบวนการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก จะคัดเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุด บรรจุในท่ออุปกรณ์ทางการแพทย์สอดผ่านทางช่องคลอดคล้ายการตรวจภายใน เข้าสู่โพรงมดลูกโดยวางตัวอ่อนไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด โดยขั้นตอนนี้จะใช้การอัลตราซาวน์ช่วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้มากขึ้น หลังจากย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสูโพรงมดลูกแล้ว แพทย์จะนัดฝ่ายหญิงมาตรวจการตั้งครรภ์อีกครั้งเพื่อดูผล
ข้อดีของการทำ IVF
– เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นในคู่สมรสที่มีบุตรยาก
– เหมาะสำหรับคู่สมรสที่ฝ่ายชายมีน้ำเชื้อน้อย ไม่แข็งแรง
– ไข่และตัวอ่อนที่เหลือสามารถแช่แข็งเก็บไว้ได้ เพื่อที่จะนำมาใช้กรณีต้องการมีบุตรเพิ่ม
ข้อเสียของการทำ IVF
การทำเด็กหลอดแก้วมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากในทุกๆกระบวนการนั้นถูกทำโดยทีมแพทย์ พยาบาลและนักวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ รวมถึงเทคโนโลยีและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีห้องปฏิบัติการที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ให้สำเร็จสูงสุด